กสอ. จับมือ“ภาคีผู้เชี่ยวชาญ” รุกสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรม พร้อมเดินหน้าอบรม 4 หลักสูตรพัฒนาขีดความสามารถประเทศลุ่มแม่น้ำโขง

จันทร์ ๒๐ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๐:๐๖
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม รุกสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมกับประเทศ AECจึงได้ร่วมมือกับกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จัดทำโครงการฝึกอบรมประเทศเพื่อนบ้าน (Third CountryTraining Program: TCTP)เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี (ปี 2558 – 2562) เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ โดยนำร่องประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง หรือ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม จากการสำรวจพบว่าทั้ง 4 ประเทศมีความต้องการรับการฝึกอบรมด้านอุตสาหกรรมสนับสนุนในทิศทางเดียวกัน สามารถแบ่งออกเป็น 4 หลักสูตรยอดนิยม ได้ดังนี้ 1.หลักสูตรการสอนช่างให้เป็นครู (Diadatics for Technical Training)2.หลักสูตรพื้นฐานการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก(Fundamental of Injection Mould Design) 3.หลักสูตรพื้นฐานการควบคุมแบบอัตโนมัติ (Basic PLC Programming) และ 4.หลักสูตรพื้นฐานการใช้เครื่องกลึง CNC และการควบคุมด้วยโปรแกรม (Basic CNC Programming and operation) ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ข้างต้นแล้วจะช่วยปรับโครงสร้างพื้นฐานการสร้างองค์ความรู้ให้แก่แรงงานและบุคลากรอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศ CLMV ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านการผลิต การเลือกใช้วัตถุดิบ ตลอดจนการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยสามารถขยายฐานการผลิตบางกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวได้มากขึ้น อีกทั้งจะช่วยให้เกิดการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ของหน่วยงานภาครัฐและเป็นจุดเริ่มต้นของ SMEs ในการบุกเบิกเข้าไปหาตลาดและการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ในอนาคตได้อย่างมั่นคง

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า การที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์ในปลายปีนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมไทยได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรรวมกว่า 600 ล้านคน จึงได้ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทย ให้สามารถขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มประเทศดังกล่าวได้ในอนาคต โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง หรือ CLMV อันได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม โดยพิจารณาศักยภาพการพัฒนาระหว่างประเทศไทยและประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง หรือ CLMVจะเห็นว่าประเทศไทยมีการพัฒนาที่ก้าวไกลกว่า เนื่องจากประเทศไทยได้ปรับเปลี่ยนจากการพัฒนาด้านเกษตรกรรมเป็นหลักไปเป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมร่วมด้วย ในขณะที่กลุ่มประเทศ CLMV มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการเกษตรกรรม และมีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมในระดับที่ไม่สูงนักดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศทั่วโลกได้ ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลดีต่อประเทศไทยด้วยนั้น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้ร่วมมือกับกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA)จัดทำโครงการฝึกอบรมประเทศเพื่อนบ้าน (Third Country Training Program: TCTP) เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี (ปี 2558 – 2562)

นายอาทิตย์ กล่าวต่อว่า จากการสำรวจความต้องการรับการฝึกอบรมด้านอุตสาหกรรมสนับสนุน ในประเทศเวียดนาม ลาว และพม่า เมื่อเดือนมีนาคม 2558ที่ผ่านมา พบว่าทุกประเทศมีความต้องการอบรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในทิศทางเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 หลักสูตรยอดนิยมที่มีความต้องการได้รับการส่งเสริมมากที่สุด คือ 1.หลักสูตรการสอนช่างให้เป็นครู (Diadatics for Technical Training)เพื่อยกระดับความสามารถช่างฝีมือให้สามารถถ่ายทอดความรู้ความสามารถต่อไปได้ 2.หลักสูตรพื้นฐานการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก(Fundamental of Injection Mould Design ) เพื่อสามารถใช้เทคโนโลยีในการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้3.หลักสูตรพื้นฐานการควบคุมแบบอัตโนมัติ (Basic PLC Programming)เพื่อสามารถประยุกต์ใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ได้และ 4.หลักสูตรพื้นฐานการใช้เครื่องกลึง CNC และการควบคุมด้วยโปรแกรม (Basic CNC Programming and operation)ให้สามารถในการควบคุมโปรแกรมและระบบอัตโนมัติได้โดยหลักสูตรดังกล่าวถือเป็นหัวใจหลักในการผลิตชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมพลาสติกที่ใช้ในครัวเรือน บรรจุภัณฑ์ เช่น ขวดพลาสติก และอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้การที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพในการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมสนับสนุนครั้งนี้ นอกจากเป็นการตอกย้ำว่าไทยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในกลุ่มประเทศอาเซียนและเป็นต้นแบบการพัฒนาสำหรับประเทศลุ่มแม่น้ำโขงแล้ว ยังเชื่อมั่นว่าภายหลังการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ข้างต้นแล้ว จะช่วยปรับโครงสร้างพื้นฐานการสร้างองค์ความรู้ให้แก่แรงงานและบุคลากรอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศ CLMV ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านการผลิต การเลือกใช้วัตถุดิบ ตลอดจนการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยสามารถขยายฐานการผลิตบางกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวได้มากขึ้น อีกทั้งจะช่วยให้เกิดการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ของหน่วยงานภาครัฐและเป็นจุดเริ่มต้นของ SMEs ในการบุกเบิกเข้าไปหาตลาดและการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ในอนาคตได้อย่างมั่นคงทั้งนี้ประเทศ CLMV มีประชากรรวมกันประมาณ 170 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมดในอาเซียน อย่างไรก็ตามในปี 2557 ที่ผ่านมาไทยสามารถส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมโดยภาพรวมไปยังกลุ่มประเทศนี้สูงถึง6 แสนล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสแรกปี 2558 ไทยส่งออกไปยัง CLMV แล้วประมาณ 1.79 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ10.59 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ข้อมูล: หอการค้าแห่งประเทศไทย,พฤษภาคม 2558) นายอาทิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับการจัดกิจกรรมฝึกอบรมดังกล่าวจะทำการคัดเลือกผู้เข้าร่วมฝึกอบรมที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรมในประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ประเทศละ 5 ราย รวมทั้งหมดเป็น 20 ราย เข้ารับการอบรมและนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้กับบุคลากรในประเทศของตนเองต่อไป โดยในปีแรกนี้จะจัดการอบรมขึ้นในเดือนกันยายน 2558 ภายใต้หลักสูตรการพัฒนาทักษะการผลิตวัสดุอุปกรณ์สำหรับประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (Skill development for Material Processing for Mekong Countries) นายอาทิตย์ กล่าวสรุป

สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน 0 2367 8100-1 หรือเว็บไซต์ http://bsid.dip.go.th หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ได้ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-18 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.thหรือwww.facebook.com/dip.pr

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?