นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เปิดเผยว่า การจัดงาน Museum Festival 2015 หรือ เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นับเป็นโครงการสำคัญที่ สพร. จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ระดับท้องถิ่นของประเทศให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนอย่างแท้จริง และยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่ง ในด้านการบริหารจัดการภายในพิพิธภัณฑ์ การจัดทำนิทรรศการ การจัดแสดงวัตถุพิพิธภัณฑ์ การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนให้พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
“Museum Festival 2015 หรือ เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นโครงการที่มุ่งพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ โดยการจัดพื้นที่ให้เครือข่ายพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ประเภทต่างๆ ได้นำวัตถุพิพิธภัณฑ์รวมถึงข้อมูลทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีมาจัดแสดง เพื่อเผยแพร่สถานที่และองค์ความรู้ให้สาธารณชนได้รู้จักและเข้าถึงมากยิ่งขึ้น ภายใต้หัวข้อ “ข้าว เกลือ โลหะ” เพราะ 3 สิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมอีสาน เป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้รากฐานทางวัฒนธรรมบนแผ่นดินเกิดของตนเอง ปลูกฝังให้เป็นต้นทุนทางความคิดผ่านต้นแบบในระดับท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลให้บุคลากรในอนาคตเหล่านี้ สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมโลกได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง” ผอ. สพร. กล่าว
ด้าน นางสาวปัฐยารัช ธรรมวงษา นักจัดการความรู้อาวุโส ฝ่ายเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ สพร. ผู้จัดการงาน Museum Festival 2015 อธิบายถึงกิจกรรมภายในงานว่า สพร. พร้อมเครือข่ายพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ 30 แห่ง ได้เตรียม นิทรรศการชุด “ข้าว เกลือ โลหะ” ให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมย้อนรอยอีสานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้ร่วมเล่าเรื่องราวผ่านวัตถุพิพิธภัณฑ์ และประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นของแต่ละแห่ง และยังมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเยาวชน พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีกมากมายภายในงาน
“พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายแห่งเป็นตัวแทนสะท้อนเรื่องราว และจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมอีสานได้เป็นอย่างดี พิพิธภัณฑ์เครือข่ายจากทั่วทั้งภาคอีสานที่มาร่วมงานในครั้งนี้ จะนำวัตถุพิพิธภัณฑ์ที่แสดงอัตลักษณ์ของท้องถิ่นมานำเสนอ อาทิ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหนองบัวโคกจัดแสดงเครื่องดักจับสัตว์ที่เป็นภูมิปัญญาการรักษาผลผลิตในนาข้าว, ห้องไทยศึกษานิทัศน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีจัดแสดงว่าวแอก ว่าวสะนู ที่เป็นวัตถุส่งสัญญานถึงพญาแถน, จวนผู้ราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) จัดแสดงเรือไฟแบบดั้งเดิม ที่สะท้อนการบูชาน้ำเพื่อความอุดดมสมบูรณ์ เป็นต้น โดยเยาวชน และผู้ร่วมงานจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมอีสานอย่างสร้างสรรค์ กับกิจกรรมมากมาย อาทิ ฟังนิทานท้องถิ่น ทำหน้ากากผีขนน้ำ ทำว่าวสะนู สาธิตการตำข้าว เพลิดเพลินกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน อาทิ วงโปงลางแสนเมือง จากโรงเรียนหนองเรือวิทยา วงกู่แคน จากภาพยนตร์เรื่องผู้บ่าวไทบ้านอีสานอินดี้ วงกันตรึมและมโหรีอีสานใต้ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ และผู้ร่วมงานยังได้เลือกซื้อสินค้าทางวัฒนธรรมประยุกต์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย” ผู้จัดการงานกล่าว