นายวีระ กล่าวต่อว่า สาระสำคัญในการปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ อาทิ เพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง สบศ. โดยเพิ่มเติมการจัดการศึกษาด้านทัศนศิลป์ การกำหนดให้ สบศ. สามารถจัดการศึกษาร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอื่นในประเทศหรือต่างประเทศหรือขององค์การระหว่างประเทศได้ และเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ให้มีอำนาจอนุมัติการเปิดสอน และให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง สบศ. รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมการจัดโครงสร้างการบริหารในสำนักงานอธิการบดีและสำนักงานวิทยาเขต รวมทั้งเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งผู้บริหารในส่วนราชการดังกล่าว
รมว.วธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้รายงานและเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พ.ศ. .... หลังที่ ครม. มีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาในรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งจากการพิจารณาในรายละเอียด ได้มีการหารือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีมติแก้ไขชื่อร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จากร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ พ.ศ. .... เป็น “พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. .... รวมถึงได้แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้วย โดยขั้นตอนหลังจากที่ ครม. เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้แล้ว ต้องส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป