“Gen A” วัยรุ่นไทยสวนกระแส ปลุกพลังธรรมะ สร้างน่านนครโมเดล

อังคาร ๑๕ กันยายน ๒๐๑๕ ๑๕:๓๑
ยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางสังคมและเทคโนโลยีเป็นหนึ่งปัจจัยชักจูงให้วัยรุ่นไทยหลงใหลและฟุ้งเฟ้อกับการใช้ชีวิตติดเทรนด์จนตกอยู่ในวังวนของโลกวัตถุนิยมโดยไม่รู้ตัว แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีวัยรุ่นอีกกลุ่มที่คิดสวนกระแส หันมาใช้ธรรมะเป็นเทรนด์พลิกชีวิต สร้างความหวังใหม่ให้สังคม

เยาวชนกลุ่มนี้เป็นเพียงเด็กนักเรียนม.ต้น โรงเรียนน่านนคร ที่กล้าลุกขึ้นมาเป็นผู้นำเปลี่ยนกระแสสังคมให้เป็นกระแสแห่งความดี ด้วยการจัดโครงการ "ธรรมะพาสนุก ปลุกพลังวัยใส" ดึงเด็กและเยาวชนในจังหวัดน่านเข้าวัดปฎิบัติธรรมทุกวันธรรมสวนะ ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 4 ปี จนประสบความสำเร็จ สร้างกระแส "เทรนด์ธรรม" ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในชุมชนได้จริงราวกับกลายเป็นคนใหม่ เรียกได้ว่าเป็นโมเดลแห่งน่านนครอย่างแท้จริง

"ธรรมะพาสนุก ปลุกพลังวัยใส" เป็น 1 ใน 28 โครงการจิตอาสาภายใต้โครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย Gen A : Active Citizen "รวมพลคนรุ่นใหม่หัวใจอาสา" ซึ่งเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิธรรมดี และองค์กรภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เพื่อเฟ้นหาโครงการจิตอาสาจากเยาวชนทั่วประเทศที่จะมาร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยให้ดีขึ้น

น้องฟ๊อด หรือ เด็กชายเชาว์วัฒน์ ปิงยศ นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนน่านนคร เยาวชนรุ่นบุกเบิกจนตอนนี้ ผันตัวมาเป็นแกนนำเชิญชวนเยาวชนคนอื่นๆ ให้เข้าร่วมโครงการ เล่าถึงที่มาของการเข้าร่วมโครงการนี้ว่า "เริ่มจากได้ยินประกาศในชุมชนว่าต้องการเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าไปร่วมทำกิจกรรมทุกวันพระ ตอนนั้นก็คิดว่าไม่น่าจะสนุก แต่ก็อยากลองเข้าไปร่วมกิจกรรมดู พอเข้าไปแล้วก็ผิดคาด เพราะการเข้าวัดครั้งนั้นสนุกมากๆ มีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ นอกเหนือจากการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ยังมีวิทยากร และปราชญ์ชุมชนมาให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทษภัยของยาเสพติด ธรรมะในชีวิตประจำวัน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงเรื่องของการมีจิตอาสาโดยจะสลับสับเปลี่ยนกันไปแต่ละครั้งที่จัดกิจกรรม นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมพาเยาวชนในโครงการไปเรียนรู้นอกสถานที่ เช่น พาไปศูนย์ปฏิบัติธรรม นั่งรถรางเรียนรู้ถิ่นแผ่นดินเกิดภายในจังหวัดน่าน เมื่อเห็นว่าการไปวัดไม่ได้น่าเบื่อ ได้เจอเพื่อนใหม่ แถมยังสนุกได้ความรู้ ก็เลยหันมาร่วมโครงการอย่างจริงจัง"

"จากวันแรกจนถึงวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมาก การเข้าวัดสอนให้ผมมีสมาธิ มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น จากที่เมื่อก่อนผมไม่เคยช่วยงานบ้านเลย สนใจแต่เรื่องของตัวเอง แต่หลังจากที่ได้เข้าวัดแล้ว เมื่อผมทำการบ้านเสร็จ ผมก็จะช่วยแม่ทำงานบ้านเท่าที่เราพอจะทำได้ ผมรู้สึกได้ว่าการเข้าวัดนอกจากจะช่วยให้จิตใจสงบ มีสติ สมาธิแล้ว ยังช่วยขัดเกลาให้เราเป็นคนดี ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะค่อยๆ หล่อหลอมไปเรื่อยๆ ช่วยให้เราทำความดี ทำสิ่งดีๆ ได้โดยไม่รู้สึกฝืนใจตัวเอง และทำด้วยความเต็มใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาแม่บอกให้ทำงานบ้านจะรู้สึกไม่ชอบ ไม่อยากทำ แต่ตอนนี้เหมือนเรารู้จักผิด ชอบ ชั่ว ดี มากขึ้น ไปช่วยงานโดยที่ไม่ต้องให้แม่บอก เพราะสำนึกแล้วว่าสิ่งนี้คือหน้าที่ของลูกนะ เราต้องทำ และผมเชื่อว่าถ้าเยาวชน หรือทุกคนในสังคมหันมาเข้าวัด และทำแต่ความดี สังคมเราก็จะมีแต่สิ่งดีๆ และมีความสุขกันมากขึ้นครับ"

ด้านที่ปรึกษาโครงการ อาจารย์สวาท นิติอภิรักษ์ ข้าราชการครูบำนาญ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ พูดถึงจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ว่าได้ดำเนินมาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2554 แต่เดิมโครงการนี้มีชื่อว่า "โครงการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่" เนื่องจากชุมชนละแวกนี้เวลาผู้ใหญ่เลิกจากการทำงาน หรือมีงานเทศกาลต่างๆ มักดื่มเหล้ากันเป็นปกติ แต่ในเด็กปัญหานี้ยังไม่เกิดขึ้น เราจึงอยากป้องกันไว้ก่อน จึงเกิดความคิดว่าอยากเห็นเด็กและเยาวชนในชุมชนนาปัง สบแก่น หรือชุนชนบ้านใกล้เรือนเคียงในจังหวัดน่านมาร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมที่วัดทุกวันพระ

ความพิเศษของโครงการนี้คือนอกจากกิจกรรมปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ และยังเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นความรู้เกี่ยวกับธรรมะกับการใช้ชีวิตประจำวัน และเรื่องของยาเสพติด ปัญหาเหล้า บุหรี่ รวมถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กเรียนดีในวันมาฆบูชาเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาการดื่มสุรา ของมึนเมาในเด็กและเยาวชน รวมถึงการให้เด็กนำสิ่งที่ได้รับจากการเข้าวัด โดยเฉพาะเรื่องศีล 5 ที่เราเน้นมาก ไปสื่อสารกับพ่อแม่หรือคนในครอบครัว ทำให้ผู้ใหญ่เกิดความละอายใจโดยให้เด็กเป็นตัวขับเคลื่อน

ที่ผ่านมาพบว่าสถิติการดื่มสุราในชุมชนนาปัง สบแก่น ลดลงต่อเนื่อง และเด็กที่เข้ามาร่วมโครงการก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากปีแรกที่มีเพียง 20 คนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีเด็กในโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 89 คนแล้ว และคิดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเด็กในโครงการก็จะชักชวนเพื่อนๆ ต่อๆ กันไปไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน หรือเพื่อนบ้านให้มาเข้ามาร่วมด้วย เด็กทุกคนที่มาจะรู้สึกสนุกและกลับเข้ามาร่วมโครงการอย่างถาวร เพราะโครงการนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การปฏิบัติธรรมอย่างเดียว แต่ยังเน้นให้เด็กเป็นนักกิจกรรมซึ่งถือว่าเป็นการเสริมสร้างความเป็นผู้นำให้กับเด็กอีกด้วย

"ทุกวันนี้ที่เราสร้างวัด สร้างวิหาร เราสร้างกันได้ แต่ถ้าเราไม่คิดที่จะสร้างคนควบคู่กันไปด้วยมันก็ไม่มีความหมายอะไร สิ่งที่เราสร้างใครจะมาดูแล ผมจึงอยากเน้นการสร้างเด็กและเยาวชนควบคู่กันไป หากคนรุ่นเก่าตายไปก็ยังสบายใจว่ายังมีเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะมาสานต่อศาสนา และวัฒนธรรมของเราไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ไม่มีวันล่มสลายไปอย่างแน่นอน" อาจารย์สวาทกล่าวทิ้งท้าย

ตลอดระยะเวลา 4 ปีของโครงการธรรมะพาสนุก ปลุกพลังวัยใส ได้แสดงพลังให้เห็นแล้วว่า "เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า" ถ้าสังคมและชุมชนทุกฝ่ายให้ความใส่ใจกับเด็กและเยาวชน ด้วยการปลูกฝังแต่สิ่งดีๆ โดยใช้ศาสนาเป็นตัวช่วย และให้ความร่วมมือตั้งใจปฎิบัติอย่างจริงจัง ขยายเครือข่ายออกไปในวงกว้าง อนาคตของชาติเหล่านี้ก็จะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี สามารถเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้เป็นสังคมสงบสุขได้อย่างแน่นอน

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ "ธรรมะพาสนุก ปลุกพลังวัยใส" สามารถติดตามความคืบหน้าการทำกิจกรรมของน้องๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/GENA4NK หรือสามารถร่วมปฏิบัติธรรมกับน้องๆ ได้ทุกวันพระ ณ วัดนาปัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน และอย่าลืมเข้าไปให้กำลังใจเยาวชนจิตอาสาเปลี่ยนประเทศภายใต้โครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย โครงการอื่นๆ กว่า 28 โครงการ ได้ที่ https://www.facebook.com/DoDClub

บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด

สิทธิ วัฒนายากร โทรศัพท์ 0-2610-2384

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4