พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีชายหนุ่ม อายุ 21 ปี ลูกชายเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าผู้เป็นพ่อ เนื่องจากเกิดน้อยใจผู้เป็นพ่อที่มีปากเสียงเรื่องไม่ช่วยกิจการครอบครัวนั้น ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พมจ.ชลบุรี) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมทั้งเยียวยาสภาพจิตใจพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตอย่างเร่งด่วน และกรณีดังกล่าวนับว่าเป็นการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทั้งนี้ หากเกิดปัญหาต่างๆขึ้นภายในครอบครัว ขอให้ใช้สติและการพูดคุยทำความเข้าใจกันเพื่อแก้ไขปัญหา และป้องกันไม่ให้ใช้ความรุนแรงในครอบครัวและนำไปสู่การสูญเสียดังเช่นกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากประชาชนประสบปัญหาต่างๆในครอบครัวและหาทางแก้ไขไม่ได้ สามารถโทรสายด่วน ๑๓๐๐ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด ๒๔ ชั่วโมง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีหญิงอายุ ๓๒ ปื หอบลูก ๓ คน อายุ ๑-๔ ขวบ เดินเก็บของเก่าขาย เนื่องจากสามีหาเงินคนเดียวไม่พอค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงอยากแบ่งเบาภาระครอบครัวและเก็บเงินให้ลูกทั้ง ๓ คนได้เรียนหนังสือ จำเป็นต้องพาลูกมาด้วยทั้งหมด เพราะไม่มีใครดูแล ที่จังหวัดนนทบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี (พมจ.นนทบุรี) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กทั้ง ๓ คนในระยะยาวต่อไป และกรณีหญิงชาวจังหวัดสงขลา เพิ่งผ่าตัดตับให้กับลูกสาวคนเล็กวัย ๙ ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคตับตั้งแต่กำเนิด ต้องเดินทางขึ้นลงกรุงเทพฯเพื่อรับการรักษาทุกเดือน ครอบครัวมีฐานะยากจน ทั้งยังต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกทั้ง ๓ คนเพียงลำพัง ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา (พมจ.สงขลา) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของเด็กหญิงอย่างต่อเนื่อง