ปภ.แนะผู้ขับขี่เรียนรู้วิธีแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินขณะขับรถช่วงฝนตก . . . ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

พฤหัส ๒๔ กันยายน ๒๐๑๕ ๑๐:๓๐
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนขับรถช่วงฝนตกมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในหลายรูปแบบ ทั้งรถเหินน้ำ รถชนท้าย และรถหลุดโค้ง พร้อมแนะผู้ขับขี่เตรียมสภาพรถให้พร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงฝนตก เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษไม่ขับรถเร็ว และเรียนรู้วิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉินขณะขับรถช่วงฝนตก จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถในช่วงฤดูฝนมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในหลายรูปแบบ เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขังผิวการจราจร ประกอบกับผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยง ขาดทักษะ และความไม่ชำนาญในการขับรถ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรเรียนรู้วิธีป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีขับรถในช่วงฝนตก ดังนี้ รถเหินน้ำ เกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ประกอบกับดอกยางรถยนต์สึกหรอ จึงไม่สามารถรีดน้ำออกจากหน้าสัมผัสได้ ทำให้ล้อหมุนและลอยอยู่บนผิวน้ำ ส่งผลให้รถลื่นไถลและควบคุมทิศทางไม่ได้ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถป้องกันและแก้ไขอาการรถเหินน้ำ โดยลดระดับความเร็วเมื่อขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง จับพวงมาลัยให้มั่น ห้ามเหยียบเบรกให้รถหยุดในทันที เพราะจะทำให้ล้อฟรี และไม่สามารถบังคับรถได้ควรถอนคันเร่ง เพื่อเบาเครื่องยนต์ และใช้เกียร์ต่ำจนกว่ารถจะทรงตัวได้ตามปกติ รถชนท้ายหรือเฉี่ยวชนเกิดจากสภาพถนนเปียกลื่น ทำให้ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถมากกว่าปกติ หากขับรถตามหลังรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด ขับรถเร็วหรือแซงรถกะทันหัน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย

ซึ่งผู้ขับขี่สามารถป้องกันรถชนท้าย โดยไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับรถตามหลังรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ เพื่อจะได้มีระยะในการหยุดรถที่ปลอดภัย รวมถึงให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นชะลอความเร็วและให้ทาง อีกทั้งสังเกตระยะห่างของรถที่ขับตามหลังมาก่อนเบรกรถ และให้แตะเบรกเบาๆ ชะลอความเร็วก่อนหยุดรถ เพื่อให้ผู้ขับรถตามหลังมาหยุดรถได้ทัน รถหลุดโค้ง เกิดจากการใช้ความเร็วสูงขณะขับผ่านเส้นทางโค้งประกอบกับสภาพถนนเปียกลื่น จึงไม่สามารถควบคุมรถได้ ทำให้รถไถลออกนอกเส้นทาง ผู้ขับขี่สามารถป้องกันและแก้ไขรถหลุดโค้ง โดยใช้ความเร็วในระดับที่สามารถควบคุมรถได้และสัมพันธ์กับสภาพถนน ไม่เหยียบเบรกและปลดเกียร์ว่างขณะเข้าโค้ง เพราะจะเกิดแรงเหวี่ยง ทำให้รถหลุดโค้ง กรณีรถไถลออกนอกเส้นทาง ห้ามหักพวงมาลัยกะทันหัน ให้แตะเบรกเบาๆเพื่อชะลอความเร็วรถ พร้อมจับพวงมาลัยให้มั่น เพื่อประคองรถกลับเข้าช่องทาง ทั้งนี้ การเตรียมสภาพรถให้พร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงฝนตก การเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ การไม่ขับรถเร็ว รวมถึงการเรียนรู้วิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉินขณะขับรถในช่วงฝนตก จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย และเพิ่ม

ความปลอดภัยในการเดินทาง

0-2243-0674 0-2243-2200

www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4