นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประชุมระดับรัฐมนตรีเกษตรและป่าไม้อาเซียน ครั้งที่ 37 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 2558 ณ เมืองมากาติ ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่ง สศก. ได้ร่วมในคณะผู้แทนไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าและหารือเกี่ยวกับแนวทางในอนาคตของกรอบนโยบายความร่วมมือด้านอาหาร การเกษตร และการป่าไม้ ทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระหว่างประเทศ เพื่อรองรับวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนปี ค.ศ. 2025 (ASEAN Community Vision 2025)
ในการนี้ ที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ (AMAF) ได้มีมติให้ความเห็นชอบต่อวิสัยทัศน์และแผน กลยุทธ์ความร่วมมือด้านอาหาร เกษตรและป่าไม้ของอาเซียนสำหรับ พ.ศ. 2559 - 2568 (The Vision and Strategic Plan for ASEAN Cooperation in Food, Agriculture and Forestry 2016-2025) ซึ่งกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) "ให้ภาคอาหาร การเกษตรและป่าไม้ของอาเซียน มีความสามารถในการแข่งขัน เกิดประโยชน์ในภาพรวม ให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนและเชื่อมโยงเข้ากับเศรษฐกิจโลก บนพื้นฐานการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว อันจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ และความมั่งคั่งให้กับประชาคมอาเซียน" ประกอบด้วย 7 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1) เพิ่มปริมาณและคุณภาพของการผลิตอย่างยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีสีเขียว ระบบการจัดการทรัพยากร และลดการสูญเสียและของเสียก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว 2) เพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้า การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ และการเข้าถึงตลาด 3) สร้างความเชื่อมั่นเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยอาหาร รวมถึงโภชนาการที่ดีอย่างเท่าเทียม 4) การรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ และภัยพิบัติอื่นๆ 5) ให้ความช่วยเหลือด้านทรัพยากรการผลิตแก่ผู้ผลิตรายย่อยและ SMEs ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เทคโนโลยี และคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานตลาดโลกและเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน 6) สร้างความเข้มแข็งในการทำงานร่วมกันของ ASEAN ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อภาคอาหาร เกษตร และป่าไม้ และ 7) ส่งเสริมด้านการบริหารจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน โดยมอบหมายให้หน่วยงานย่อยภายใต้ AMAF จัดทำแผนงานและมาตรการการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว
เลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเปรียบเทียบวิสัยทัศน์และแผนยุทธศาสตร์ด้านอาหาร เกษตรและป่าไม้ของอาเซียนกับแผนการพัฒนาการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วนั้น จะเห็นว่ามีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เช่น การมุ่งเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การลดต้นทุนการผลิต การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสมและคุ้มค่าผ่านการบริหารจัดการฟาร์มด้วยระบบเกษตรแปลงใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรที่ทันสมัย ทั้งเรื่องเครื่องจักรกลในการผลิต การแปรรูป และการเพิ่มช่องทางการตลาดสำหรับผลผลิตเกษตร ตลอดจนการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีมาตรฐานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาด
ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสามารถผลักดันการดำเนินงานและยกระดับการพัฒนาการผลิตการเกษตรของไทยให้สอดคล้องและเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวของอาเซียน ซึ่งจะช่วยยกระดับสินค้าเกษตรและอาหารของไทยและอาเซียนให้มีมาตรฐานและมีความปลอดภัย เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรและอาหารอาเซียนในตลาดโลก ซึ่งจะสามารถบรรลุเป้าหมายให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ และความมั่งคั่งให้กับประชาคมอาเซียน ตามวิสัยทัศน์ของอาเซียนที่กำหนดไว้ข้างต้น"