ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน มาสเตอร์โพล (Master Poll)

จันทร์ ๑๒ ตุลาคม ๒๐๑๕ ๐๘:๕๘
มาสเตอร์โพลเปิดเผยแนวโน้มความนิยมตั้งแต่ รัฐบาลและ คสช. เข้าแก้ปัญหาประเทศในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พบ กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาลมีอาการแกว่งตัวขึ้นลงสูง แต่ความนิยมของกลุ่มพลังเงียบและกลุ่มสนับสนุนต่อ คสช.และรัฐบาลอยู่ในเกณฑ์สูงทำให้รัฐบาลและ คสช. มีเสถียรภาพในการแก้ปัญหาของประเทศ ระบุ ประชาชนได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐทำรัฐบาลมั่นคง แต่นโยบายด้านส่งเสริมการลงทุนยังได้คะแนนต่ำสุดเพราะแกนนำชุมชนยังไม่เห็นประโยชน์มากนัก

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพล (Master Poll) เรื่อง แนวโน้มความนิยมต่อผลงานรัฐบาลและ คสช. ในรอบ 1 ปี กับนโยบายอะไรของรัฐที่เห็นประโยชน์และไม่เห็นประโยชน์ กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 1,057 ชุมชนตัวอย่าง โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบใช้ความน่าจะเป็นทางสถิติจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลแกนนำชุมชนทั่วประเทศ รวบรวมโดย ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน ดำเนินโครงการในวันที่ 25 กันยายน – 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558 พบว่า

ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.2 ระบุได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รองลงมาคือ ร้อยละ 92.5 ได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมความรักความสามัคคีของคนในชาติ ร้อยละ 91.7 ได้รับประโยชน์จากนโยบายเสริมสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน ร้อยละ 87.9 ได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และ ร้อยละ 83.3 ได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการออม ลดหนี้สินครัวเรือน รองๆ ลงไปคือได้ประโยชน์จากนโยบายชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง นโยบายปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ นโยบายสร้างระบบการเมืองคุณธรรม นโยบายเสรีภาพสื่อคู่ความรับผิดชอบ นโยบายคุณภาพชีวิตแรงงาน ในขณะที่ ส่วนน้อยที่สุดหรือร้อยละ 68.8 ได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการลงทุน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คะแนนเฉลี่ยการได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลโดยรวมได้ร้อยละ 84.3

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงความคาดหวังต่อการดำเนินงานของ คสช. พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.2 ระบุ คสช. ทำได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้ในเรื่อง การส่งเสริมความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ รองลงมาคือ ร้อยละ 60.1 ระบุ คสช.ทำได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้ในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ร้อยละ 58.7 ระบุเป็นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 57.9 ระบุเป็นเรื่องความรวดเร็วฉับไวในการช่วยเหลือประชาชน และร้อยละ 57.0 ระบุเป็นเรื่องความตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติ ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ แนวโน้มความนิยมต่อผลงานของรัฐบาลและ คสช. แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามฐานสนับสนุนต่อรัฐบาล พบว่า กลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลยังมีแนวโน้มความพอใจในระดับสูงมากคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ส่วนกลุ่มพลังเงียบมีแนวโน้มความพอใจต่อผลงานรัฐบาลและคสช.ในเกณฑ์ที่ดีคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ในขณะที่กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาลมีแนวโน้มความพอใจ "แกว่งตัว" ขึ้นลงแล้วแต่ห้วงเวลาแต่ล่าสุดอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 60 ดังนั้นโดยภาพรวมของแนวโน้มความพอใจต่อผลงานรัฐบาลและ คสช. ยังอยู่ในเกณฑ์ที่มั่นคงเพราะกลุ่มพลังเงียบและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลยังคงมีเกณฑ์ความพอใจในระดับสูงถึงสูงมาก ในขณะที่กลุ่มไม่สนับสนุนแต่ก็ค่อนข้างพอใจโดยรวม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๐ DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๖:๕๘ Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๖:๐๓ Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๖:๓๕ โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๖:๓๑ 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๖:๒๗ TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๖:๔๗ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๖:๐๐ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๖:๒๙ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๖:๒๘ คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital