รมว.วธ. กล่าวอีกว่า โครงการวัฒนธรรมสัญจรสำหรับคณะทูตานุทูตครั้งที่ 9 วธ.นำคณะทูตานุทูตสัญจร ที่ จ.สระแก้ว และ จ.บันเตียเมียนเจย กัมพูชา วันที่ 6-8 พฤศจิกายน โดยมีคณะทูตานุทูตเข้าร่วมกิจกรรม 20 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา เบลเยี่ยม กัมพูชา ชิลี เช็ก เฮลเลนิก (กรีซ) อินโดนีเซีย อิสราเอล คูเวต ลาว ลิเบีย โอมาน ปานามา สเปน ศรีลังกา สวิส ติมอร์-เลสเต อินเดีย บังคลาเทศและเวียดนาม ทั้งนี้แหล่งโบราณคดีและแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ที่จัดกิจกรรมสัญจรของ จ.สระแก้วมีพื้นที่ชายแดนที่ติดต่อกับ จ.บันเตียนเมียนเจย ทำให้มีแหล่งมรดกวัฒนธรรมร่วมสมัยกัน อาทิ ปราสาทบันทายฉมาร์ และปราสาทบันทายทัพ แสดงถึงความสัมพันธ์มาอย่างยาวนานระหว่างสองประเทศ อีกทั้งยังมีปราสาทสด๊กก๊อกธม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงเป็นโอกาส อันดีที่จะเผยแพร่แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมแก่คณะทูตานุทูตและสื่อมวลชน รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศและแสดงถึงการบูรณาการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะทำให้เกิดการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในด้านความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ระดับภูมิภาคร่วมกัน ซึ่งนำไปสู่ความร่วมมือและการสนับสนุนงานด้านต่างๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตามการนำคณะทูตานุทูตสัญจร เยี่ยมชมแหล่งมรดกวัฒนธรรมครั้งนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนด้วย และยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ อาทิ เยี่ยมชมโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ โครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้การดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นศูนย์อนุรักษ์และพัฒนากระบือไทยควบคู่กับการพัฒนาด้านการเกษตรที่เหมาะสมกับประชาชน และเยี่ยมชมแหล่งหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงบ้านหันทราย อ.อรัญประเทศ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้จะทำให้คณะทูตานุทูตที่เข้าร่วมโครงการเล็งเห็นถึงคุณค่าความสำคัญของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม แหล่งศิลปหัตถกรรม วิถีชีวิตและภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทย รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การบริหารจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนด้วย