นางแดนนี ชิว Regional Director, Southeast Asia and India องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) กล่าวว่า HKTDC ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สายการบิน Cathay Pacific บริษัท Livinism บริษัท BETrend ในเครือบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ (TCDC) ดำเนินโครงการ Thai Access to International Markets Competition (THAI AIM) ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่และเอสเอ็มอีที่มีจุดแข็งด้านการออกแบบสินค้า ให้สามารถเข้าถึงตลาดโลกผ่านช่องทางการค้าออนไลน์และงานแสดงสินค้าในระดับนานาชาติที่ประเทศฮ่องกง
นางแดนนี ชิว เผยว่า การจัดงานงานครั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนองตอบแนวทางของรัฐบาลไทย ที่จะมุ่งสร้างผู้ประกอบการใหม่และสนับสนุนกลุ่มเอสเอ็มอีให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
"โครงการนี้จะเปิดโอกาสให้กลุ่มเอสเอ็มอีได้เข้าถึงตลาดโลก รวมถึงกระตุ้นให้พันธมิตรของเรามีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการเพื่อรับมือความท้าทายในอนาคต คือเปิดโอกาสให้กลุ่มเอสเอ็มอี ได้ทดลองทำการตลาดผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ได้ต่อไป"
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายภารกิจให้ สสว. พัฒนาและช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งกลุ่มที่มีอยู่แล้วและกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ ไม่น้อยกว่า 30,000 ราย ภายในปี 2559 ด้วยการส่งเสริม สนับสนุนและต่อยอดการดำเนินธุรกิจให้มีศักยภาพ
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ ซึ่งจะสนับสนุนให้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และต่อยอดให้เกิดเป็นธุรกิจเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาให้เติบโตและส่งเสริมให้เข้าถึงการตลาดทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะช่องทางการตลาดออนไลน์
ผอ.สสว. เผยว่า ความร่วมมือกับ HKTDC ในการดำเนินโครงการ THAI AIM นี้ จึงจะเป็นการสร้างโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ ปลูกฝังแนวคิดการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงส่งเสริมสินค้าไทยให้สามารถขยายตลาดสู่นานาชาติมากขึ้น ซึ่งการดำเนินงานครั้งที่ 2 นี้ จะเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ออกแบบหน้าใหม่ได้แสดงผลงานสู่ตลาดในระดับสากล ผ่านงานแสดงสินค้าและช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของ HKTDC ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับนโยบายการสร้างกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ของ สสว. อีก 10,000 ราย"
"ในส่วนของ สสว. จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ 12 รายที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ในการแสดงและจำหน่ายสินค้าในโซน Small Order Zone ซึ่งเป็นโซลูชั่นการตลาดแบบ B2B Online-to-Offline ที่รวมการแสดงสินค้าในงานและช่องทางการทำการค้าแบบออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะจัดอยู่ในงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย และงานของขวัญและของที่ระลึก ณ ประเทศฮ่องกง"
นางสาลินีเผยว่า โครงการดังกล่าว จะช่วยให้สินค้าไทย ออกสู่สายตาผู้ซื้อภายในงานมากกว่า 80,000 รายจากทั่วโลก และได้รับโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผ่านหน้า Small Order Zone ในเว็บไซต์ hktdc.com ซึ่งจะช่วยให้เอสเอ็มอีไทย ได้พัฒนาศักยภาพตัวเองและขยายโอกาสทางการตลาดผ่านวิธีการทำตลาดในรูปแบบใหม่ ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และผู้ประกอบการสามารถรับคำสั่งซื้อได้ในปริมาณที่สอดคล้องกับความสามารถในการผลิต ซึ่งจะช่วยให้ส่งออกสินค้ามากยิ่งขึ้น ขยายตลาดได้ทั้งในกลุ่มอาเซียนและทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพ
นางสาวอกาธา ลี ผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบิน Cathay Pacific กล่าวว่า บริษัทจะสนับสนุนโครงการในปีนี้โดยการพาผู้ชนะของโครงการที่ได้รับจำนวนคำสั่งซื้อสูงสุดภายในงาน ไปเยี่ยมชมงาน Inno Design Tech Expo ที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นงานจัดแสดงผลงานออกแบบระดับโลก
นายโดนัลด์ วู ผู้อำนวยการ Livinism กล่าวว่า บริษัทจะร่วมให้ความรู้ผ่านการสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านการสร้างแบรนด์และการตลาดออนไลน์สำหรับกลุ่มผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย เพื่อช่วยให้ได้เตรียมพร้อมสำหรับการก้าวสู่ตลาดโลก ในฐานะบริษัทให้คำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์
นางสาวสายสวาท เลิศเจริญเสริมสุข ผู้จัดการทั่วไปสายบริหารสินค้า BETrend กล่าวว่า บริษัทจึงจะมอบพื้นที่จัดแสดงผลงานในบริเวณห้างสยามพารากอน เพื่อให้ผู้ประกอบการทดลองแสดงสินค้าในตลาดภายในประเทศก่อนจะไปร่วมการประกวดใน 2 งานนานาชาติที่ฮ่องกง
สำหรับโครงการ THAI AIM เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางโทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดีย ในรูปแบบของการประกวดวีดีโอผลงานสร้างสรรค์เกี่ยวกับสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มกลุ่มเป้าหมาย คือนักออกแบบหน้าใหม่ ผู้ประกอบการรายใหม่ และผู้ผ่านการฝึกอบรมจากโครงงการด้านการออกแบบ โดยการอัพโหลดรูปภาพสินค้าหรือวีดีโอแนะนำสินค้าของตนเองความยาว 15 วินาที
พร้อมประชาสัมพันธ์ผลงานผ่าน Facebook และ Instagram เพื่อเปิดโอกาสให้สาธารณชนลงคะแนนเลือกผลงานที่ชื่นชอบ โดยจะเริ่มเปิดรับผลงานของผู้สนใจตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 พร้อมการเปิดลงคะแนน และหมดเขตการลงคะแนนในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องอยู่ในรูปบริษัทและกลุ่ม SME ที่ขึ้นทะเบียนกับภาครัฐเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์ในการสนับสนุน และทุกบริษัทต้องสามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ระหว่าง 5 – 1,000 ชิ้น
สำหรับการดำเนินโครงการ THAI AIM ครั้งที่ผ่านมา นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศและผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ล้วนได้รับประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและช่องทางในการจำหน่ายสินค้าใหม่ เช่น บริษัท เอสกิโม ซึ่งทำธุรกิจด้านการออกแบบ สามารถต่อยอดธุรกิจกับผู้ซื้อกว่า 120 รายในงาน Houseware Fair ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและงาน Gifts and Premium Fair ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งจัดที่ฮ่องกง และได้ติดต่อลูกค้ารายใหม่จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่องผ่านส่วน Small Order Zone ในเว็บไซต์ hktdc.com