การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการกรังด์ปรีซ์ เรซซิ่ง ลีก 2015 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายของฤดูกาล ระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ พีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) ระยะทางต่อรอบ 2.4 กิโลเมตร หลังยกพลไปชิงชัยที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ใน 2 สนามก่อนหน้านี้
ออกสตาร์ทเรซแรกด้วยเกมในรุ่นเล็กอย่าง อีโค่ ซูเปอร์ คัพ ลงดวลความเร็วร่วมกับรุ่นโปร.คาร์ ซูเปอร์ คัพ โดยผลการแข่งขันรุ่นอีโค ซูเปอร์ คัพ หลังผ่าน 12 รอบสนามที่ พีระฯ เป็นทางด้าน โอฬาร ที่ทะยานขึ้นเป็นผู้นำตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะจัดการคว้าแชมป์ที่ 6 ในฤดูกาลให้กับตนเอง หลังซิ่งรับธงตราหมากรุกเป็นคันแรก ด้วยเวลา 16 นาที34.130 วินาที ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ คมิก และ รัฐนินท์ ที่เร่งเครื่องขึ้นมาคว้าอันดับ 3 ขณะ รดีวาร และ ทศพล ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 4 และ 5
ขณะเกมโปร.คาร์ ซูเปอร์ คัพ เป็นการระเบิดฟอร์มของ โทมัส ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซิ่งนำม้วนเดียวจบ คว้าแชมป์ที่ 4 ในฤดูกาลให้กับตนเอง ทิ้งห่าง ภัทรพล และ กิตติธัช ที่ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 ถึง 5.865 และ27.975 วินาที ส่วนอันดับ 4 ได้แก่ ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ จาก 33 ออโต้ เงากลการ และ ดีน คัลลิสเตอร์ สังกัดบีบีอาร์ ซีอีเอ เรซซิ่ง ในอันดับ 5
ด้าน แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพ ออกสตาร์ทเรซ ที่ พีระฯ ด้วยจังหวะปะทะกันระหว่าง แจ็ค และ กันตศักดิ์ ที่เบียดกันตั้งแต่โค้งแรกของเกม ทว่า แจ็ค สามารถรักษาตำแหน่งหัวขบวนไว้ได้ ส่วน กันตศักดิ์ ตามกดดันอยู่ในอันดับ 2 ขณะ ภาสฤทธิ์ และ นราศักดิ์ พัวพันอยู่ในอันดับ 3 และ 4
หลังจากนั้น กันตศักดิ์ พยายามหาจังหวะเร่งเครื่องแซง แจ็ค อย่างไรก็ดี ดาวขับสังกัดโอเอ็มพี วัฒนา มอเตอร์สปอร์ต สามารถหนีการไล่ล่าของนักขับรุ่นน้อง ก่อนจะเร่งเครื่องเพิ่มช่องว่างออกไปเรื่อยๆ ทว่าในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน กันตศักดิ์ สามารถเร่งเครื่องขยับขึ้นมาไล่บี้ แจ็ค จนกระทั่งโค้งสุดท้ายของเกม
ท้ายที่สุดแชมป์ตกเป็นของ แจ็ค ที่ซิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 15 นาที 18.533 วินาที เฉือดน กันตศักดิ์ ที่ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 เพียง 0.190 วินาที ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ ภาสฤทธิ์ ที่สามารถหนีการไล่ล่าของ นราศักดิ์ และตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 4 ช้ากว่าแชมป์ 1.618 และ 2.162 วินาที ขณะ ชาริยะ ซิ่งจบการแข่งขันในอันดับ 5
ส่วนเกมในรุ่นใหญ่อย่าง เจแปนีส พาวเวอร์ ชาลเลนจ์ แชมป์ตกเป็นของ มานะ พรศิริเชิด สังกัดเอ็มพีเอฟ มิสเตอร์การาจ เดอะวัน เรซซิ่ง ทีม ที่ซิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ด้วยเวลา 14 นาที 15.999 วินาที ทิ้งห่าง เตชิษฐ์ ธนาพรสังสุทธิ์ และ กันตภณ แสนใจศรี ที่ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 ถึง 29.456 และ 29.692 วินาที
ขณะเกมในเรซที่ 2 รุ่นอีโค่ ซูเปอร์ คัพ ยังคงลงดวลความเร็วร่วมกับ โปร.คาร์ ซูเปอร์ คัพ ด้วยสภาพแทร็กที่เปียกจากวายฝนที่ตกลงมาก่อนเกม สร้างความยากลำบากในการควบคุมรถและทำความเร็ว ส่งผลให้เกมมีความพลิกผันเกิดขึ้นตลอดทั้งเกม อย่างไรก็ดี คมิก สามารถรักษาตำแหน่งหัวขบวนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนจะซิ่งรับธงตราหมากรุกเป็นคันแรก ด้วยเวลา 19 นาที 43.605 วินาที ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ โอฬาร และ รัฐนินท์ ในอันดับ 3
ส่วนโปร.คาร์ ซูเปอร์คัพ ต้องดวลความเร็วบนสภาพแทร็กที่เปียก เนื่องจากมีสายฝนตกลงมาก่อนที่เกมจะเริ่ม ส่งผลให้กรรมการควบคุมการแข่งขันประกาศเป็นเวทเรซ และด้วยสภาพแทร็กดังกล่าวส่งผลให้เกิดจุดพลิกผันตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ ชนินชา เบียดกับ อนุสรณ์ ก่อนจะหมุนไปเกี่ยว ภัทรพล และ กิตติธัช หลุดออกจากแทร็กไปในโค้งแรกของเกม ทว่านักขับทั้ง 4 สามารถดึงรถกลับเข้าสู่เกมได้
ด้าน โทมัส อาศัยจังหวะดังกล่าวขึ้นนำโด่งตั้งแต่ต้นเกม โดยไฮไลต์ของเรซดังกล่าวอยู่ที่การแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ประจำปีในคลาสบีระหว่าง ชนุชา และ ภัทรพล ซึ่งฝ่ายแรกสามารถขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงตั้งแต่ต้นเกม ขณะ ภัทรพล ต้องไล่แซงคู่แข่งไต่อันดับจากกลุ่มกลาง และสามารถขึ้นไปต่อท้าย ชนุชา ในช่วงท้ายเกม ก่อนจะเร่งเครื่องแซงขึ้นไปรั้งอันดับ 2 เบียด ชนุชา ลงไปอยู่อันดับ 3
ท้ายที่สุดแชมป์ตกเป็นของ โทมัส ที่ซิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกด้วยเวลา 18 นาที 13.820 วินาที ทิ้งห่าง ภัทรพล และ ชนุชา ที่ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 ถึง 34.772 และ 43.273 วินาที
การชิงชัยในเรซตัดสินแชมป์ประจำปี รุ่นแจ๊ซ ซูเปอร์ คัพ เกมในเรซดังกล่าวเป็นการรีดฟอร์มเก่งของ ภาสฤทธิ์ ที่ขึ้นเป็นผู้นำฝูงตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะซิ่งแบบไร้คู่แข่ง ส่งผลให้ไฮไลต์ของการแข่งขันอยู่ที่การแย่งชิงอันดับ 2 ซึ่ง แจ็ค ต้องหนีการไล่ล่าของ กันตศักดิ์ ที่พยายามหาจังหวะแซงคู่แย่งแชมป์เพื่อสร้างโอกาสในการคว้าแชมป์ประจำปี ขณะ ชาริยะ, ภัทรพล และ มานะ ยังคงเกาะอยู่ในกลุ่มหัวขบวน
ด้วยศักยภาพของรถที่เท่ากันส่งผลให้มีความพลิกผันแทบทุกโค้ง อย่างไรก็ดี แจ็ค สามารถปิดไลน์และหนีการไล่ล่าของ กันตศักดิ์ ก่อนจะซิ่งรับธงตราหมากรุกในอันดับ 2 ตามหลัง ภาสฤทธิ์ ที่คว้าแชมป์ไปครองถึง 8.402 วินาที ขณะ กันตศักดิ์ ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 3
ปิดท้ายด้วยเกมในรุ่นใหญ่อย่าง เจแปนีส พาวเวอร์ ชาลเลนจ์ ชิงชัยทั้งสิ้น 12 รอบสนาม ซึ่งเกมในเรซดังกล่าวยังคงขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ ท้ายที่สุดแชมป์ตกเป็นของ มานะ ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมนัดส่งท้ายฤดูกาล ก่อนจะซิ่งเหมาแชมป์ที่ พีระฯ ไปครอง ด้วยเวลา 14 นาที 51.362 วินาที ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ จักรพันธ์ และ เตชิษฐ์ ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ถึง 8.434 และ 8.702 วินาที
สรุปตำแหน่งแชมป์ประจำปี ศึกกรังด์ปรีซ์ เรซซิ่ง ลีก 2015 แชมป์ โปร.คาร์ ซูเปอร์ คัพ ตกเป็นของ โทมัส ราลดอร์ฟ ขณะ โอฬาร สรสิริรัตน์ ผงาดขึ้นบัลลังก์ อีโค่ ซูเปอร์ คัพ ด้าน แจ็ค แลมวาร์ด คว้าแชมป์ แจ๊ซ ซูเปอร์ คัพ ไปครอง ส่วนแชมป์ เจแปนีส พาวเวอร์ ชาลเลนจ์ รุ่น 4 สูบตกเป็นของ มานะ พรศิริเชิด ขณะ วราพงษ์ แสงฟอง คว้าแชมป์รุ่น 6 สูบไปครอง