"ข้าวมะลินิลสุรินทร์เป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้มหรือสีดำ มีคุณสมบัติในการป้องกันโรคมะเร็ง อีกทั้งในปี 2559 กรมการข้าวจะรับรองพันธุ์ข้าวมะลินิลสุรินทร์ จึงมีความจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ของเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และผู้เกี่ยวข้อง ให้รู้จักข้าวมะลินิลสุรินทร์กันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งรับรู้เทคโนโลยีการผลิตข้าวและการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมะลินิลสุรินทร์ที่ถูกต้อง เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน โดยยึดหลักการ 4 ด้าน ได้แก่ การลดการใช้ปัจจัยการผลิต การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การเพิ่มการบริหารจัดการแบบแปลงใหญ่ และการเชื่อมโยงตลาด ดังนั้น เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการเกษตรกรจึงควรรวมกลุ่มกันเพื่อผลิตและจำหน่ายข้าวพันธุ์นี้เป็นการเฉพาะ หากเกษตรกรทำได้ก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากข้าวกลุ่มนี้ราคาสูงกว่าข้าวขาว ซึ่งหากปลูกในระบบอินทรีย์ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้นไปอีก" พลเอกฉัตรชัย กล่าว
สำหรับแผนการขยายผลข้าวพันธุ์มะลินิลสุรินทร์ ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์จะดำเนินการผลิตเมล็ดพันธุ์หลัก 5 ตันในปี 2559 แล้วนำไปส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรทำการผลิตในเชิงการค้าได้ 500 ไร่ เกษตรกร 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 ราย รวมเป็น 60 ราย ซึ่งจะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 155,000 กิโลกรัม สร้างรายได้ให้เกษตรกรไม่ต่ำกว่า 12.40 ล้านบาท หรือเฉลี่ยจำหน่ายได้กิโลกรัมละ 80 บาท?