1. ฐานะการคลังเดือนพฤศจิกายน 2558
1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 178,773 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 34,558 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 24.0) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จัดเก็บได้สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 232,928 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 27,170 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 13.2) ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 197,487 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 14.9 และรายจ่ายลงทุน 11,479 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 31.0 และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 23,962 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.5
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ เงินอุดหนุนของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น 63,288 ล้านบาท เงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ 14,452 ล้านบาท และรายจ่ายชำระหนี้ของกระทรวงการคลัง 6,065 ล้านบาท
1.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนพฤศจิกายน 2558 ขาดดุล 54,155 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 4,372 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการเบิกจ่ายเงินจัดสรรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อปท.) สุทธิ 8,271 ล้านบาท เบิกจ่ายเงินคงคลังอื่นๆ สุทธิ 8,287 ล้านบาท ขณะที่มีรายรับจากเงินฝากคลังของเงินกู้โครงการต่างๆ สุทธิ 10,427 ล้านบาท การประมูลตั๋วเงินคลังสุทธิ 1,993 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 58,527 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 109,075 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) เกินดุลเท่ากับ 50,548 ล้านบาท
2. ฐานะการคลังในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2558)
2.1 รายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 335,757 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 25,438 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 8.2) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากภาษีน้ำมันและภาษีเงินได้นิติบุคคลที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และการนำส่งเงินคืนจากการยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ
2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 607,129ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 33,773 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 5.9) ประกอบด้วยรายจ่ายปีปัจจุบัน 568,574 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.9 ของวงเงินงบประมาณหลังโอนเปลี่ยนแปลง สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.2 และรายจ่ายปีก่อน 38,555 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.5
รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 568,574 ล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 533,564 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 24.4 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลง 2,183,226 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.3 และรายจ่ายลงทุน 35,010 ล้านบาท(คิดเป็นร้อยละ 6.5 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลง 536,774 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 48.4
2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุล 287,923 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 271,372 ล้านบาท และขาดดุลเงินนอกงบประมาณจำนวน 16,551 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเบิกจ่ายเงินจัดสรรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อปท.) สุทธิ 16,507 ล้านบาท ขณะที่มีเงินฝากคลังของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย สุทธิ 1,459 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินโดยชดเชยการขาดดุลด้วยการกู้เงินจำนวน 208,169 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับ 79,754 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 346,428 ล้านบาท
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9020 ต่อ 3563