นายวีระ กล่าวอีกว่า 5. ฐานข้อมูลภาพยนตร์ชาติพันธุ์ 6. ฐานข้อมูลจดหมายเหตุมานุษยวิทยา 7. ฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย 8. ฐานข้อมูลเอกสารโบราณภูมิภาคตะวันตกในประเทศไทย 9. ฐานข้อมูลนามานุกรมวรรณคดีไทย 10. ฐานข้อมูลของเล่นพื้นบ้านในประเทศไทยและและ 11. ฐานข้อมูลคำศัพท์ทางมานุษยวิทยา อย่างไรก็ตามแผนดำเนินการต่อจากนี้ ศมส.จะดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลออนไลน์ เพื่อให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 8 ฐาน แบ่งเป็นฐานข้อมูลที่จะให้บริการภายในปี 2559 จำนวน 4 ฐาน ได้แก่ 1. ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่น 2. ฐานข้อมูลศิลปกรรมในประเทศไทย 3. ฐานข้อมูลสังคม-วัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4. ฐานข้อมูลศิลปกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และฐานข้อมูลที่จะให้บริการภายในปี 2560 จำนวน 4 ฐาน ได้แก่ 1. ฐานข้อมูลเครื่องมือเครื่องใช้ 2. ฐานข้อมูลภาชนะดินเผาในประเทศไทย 3. ฐานข้อมูลมานุษยวิทยากายภาพในประเทศไทย และ 4. ฐานข้อมูลเรือนพื้นถิ่นในประเทศไทย
รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ได้ดำเนินการแปลข้อมูลในฐานเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้บริการผู้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการพัฒนาให้ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เป็นศูนย์ข้อมูลด้านมานุษยวิทยาและสังคม-วัฒนธรรมของไทยในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในอาเซียน เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลของศูนย์ดำเนินการตามมาตรฐานสากล รองรับการแปลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การพัฒนาและจัดทำฐานข้อมูลเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและรับบริการข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล การส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการต่อยอดการศึกษาวิจัยและแปรรูปเป็นนวัตกรรมต่างๆ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจได้