โคเวสโตรเสริมความแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้นำด้านการผลิตโพลีเมอร์ระดับโลกเปิดสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ศุกร์ ๑๕ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๕:๔๐
โคเวสโตร ผู้ผลิตโพลีเมอร์และพลาสติกคุณภาพสูงชั้นนำระดับโลก เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาค จัดงานแถลงข่าวประกาศเปิดตัวสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อตอกย้ำความสำคัญของตลาดอาเซียนต่อธุรกิจของโคเวสโตร ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากจีน

ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนนี้ เนื่องจากหนึ่งในแปดของศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของโคเวสโตร ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยศูนย์การผลิตมาบตาพุดผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกคุณภาพสูง ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของโคเวสโตรยังประกอบไปด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลียูรีเทน กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสี กาว และผลิตภัณฑ์เฉพาะด้าน

จุดยืนสู่ความสำเร็จ

คุณแฟรงค์ ลุทซ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน โคเวสโตร เอจี มาร่วมงานเปิดสำนักงานใหญ่ ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า "ในฐานะผู้ผลิตนวัตกรรมและโพลีเมอร์คุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กโทรนิกส์ โคเวสโตรมีจุดยืนที่ชัดเจนซึ่งจะนำธุรกิจของเราไปสู่ความสำเร็จ เราได้วางกลยุทธ์ในการลงทุนและการจัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราให้เหมาะสมและลงตัวกับตลาด"

ด้านคุณซาเมียร์ ฮิฟรี ประธาน บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า "โคเวสโตร พร้อมที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้งาน การดำเนินธุรกิจในอาเซียน อาทิเช่น ศูนย์การผลิตมาตรฐานระดับโลก ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ และยังมีบุคคลากรที่มีความสามารถด้านการดำเนินธุรกิจและทางด้านเทคนิค"

คุณซาเมียร์ ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อธุรกิจโคเวสโตร เนื่องจากภูมิภาคนี้เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของทวีปเอเชียและตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) สูงถึง 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยกล่าวว่า "การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ยิ่งทำให้โคเวสโตรต้องหันมาให้ความสำคัญในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเรามองว่าหากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีการบริหารจัดการที่ดีแล้ว จะทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคขยายตัวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังทำให้ชนชั้นกลางมีจำนวนเพิ่มขึ้น และส่งผลให้เกิดการกระตุ้นความต้องการในผลิตภัณฑ์และทางเลือกของเรามากยิ่งขึ้นด้วย"

เน้นย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน

เนื่องจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนประชากรสูงถึง 622 ล้านคน เป็นภูมิภาคที่นับได้ว่ามีประชากรมากเป็นอันดับสามของโลก ประเด็นด้านความมั่นคงของที่อยู่อาศัยและอาหารจึงถือเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับภูมิภาคนี้ โคเวสโตรจึงมีมุ่งมั่นที่จะเปิดโอกาสให้ประชากรที่อยู่ระดับฐานของปิรามิดทางสังคมสามารถเข้าถึงนวัตกรรมของบริษัทได้อย่างทั่วถึง

"ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ 'สร้างสรรค์เพื่อโลกที่สดใส' โคเวสโตรนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานของผู้คนในสังคม และช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนผ่านความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและเอกชน โดยแต่ละผลิตภัณฑ์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างคุณค่าให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย" คุณซาเมียร์ กล่าว

ด้วยความพร้อมทางเลือกด้านเทคโนโลยี โคเวสโตรจึงร่วมมือกับมูลนิธิที่อยู่อาศัย (Habitat for Humanity) และพันธมิตรเอกชนอื่นๆ เพื่อริเริ่มโครงการสร้างบ้านราคาประหยัดที่สามารถต้านทานภัยธรรมชาติได้จำนวน 1,000หลัง ในประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากที่บ้านเรือนจำนวนมากถูกทำลายด้วยพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปีพ.ศ. 2556

โคเวสโตร ยังได้ริเริ่มโครงการความยั่งยืนด้านเกษตรกรรม ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีอบแห้งด้วยแสงอาทิตย์จากโพลีคาร์บอเนต และเทคโนโลยีฉนวนกักเก็บความเย็นจากโพลียูรีเทน เพื่อธุรกิจด้านเกษตรกรรมในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และเมียนมาร์

ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

คุณแฟรงค์ เน้นย้ำว่าถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของโคเวสโตร หลังจากแยกธุรกิจเป็นอิสระจากไบเออร์ในเดือนกันยายน และการจดทะเบียนเข้าในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเยอรมนีในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา "หลังจากความสำเร็จในช่วงไตรมาสที่สามของปีที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจถึงผลประกอบการโดยรวมของปี 2558 ว่าเราจะต้องเห็นการเติบโตของผลกำไร และความคล่องตัวของงบกระแสเงินสดยังเป็นไปตามเป้าที่คาดหมายไว้แน่นอน"

อีกหนึ่งก้าวสำคัญของโคเวสโตร คือ การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MDAX ส่งผลให้โคเวสโตรกลายเป็น 1 ใน 80 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแม่ของโคเวสโตร "ในปี 2558 เราเป็นหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกให้กับประชาชน โดยราคาหุ้นของโคเวสโตรมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม โดยปัจจุบัน ราคาหุ้นของบริษัทมีการซื้อขายอยู่ที่ราคาประมาณ 34 ยูโร ซึ่งสูงกว่าราคาตอนเปิดตัวที่อยู่ที่ 24ยูโร และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต" คุณแฟรงค์กล่าวเสริม

กลยุทธ์เพื่อการเติบโตในอนาคต

โคเวสโตรวางกลยุทธ์การดำเนินงานไว้อย่างชัดเจน โดยมีเป้าหมายหลักที่จะดำเนินธุรกิจให้ผลกำไรงอกงามมากขึ้นในอนาคต ด้วยแรงสนับสนุนจากตลาดและอุตสาหกรรมหลักที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตเร็วกว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในไม่กี่ปีข้างหน้า "รากฐานความสำเร็จในอนาคตของเราอยู่ที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนในทุกสิ่งที่เราทำ" คุณแฟรงค์กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับความได้เปรียบในการแข่งขันของโคเวสโตร อยู่ที่จุดยืนด้านความเป็นผู้นำระดับโลกในแต่ละอุตสาหกรรม ด้วยการให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ การดำเนินงานในระดับโลก สินทรัพย์และการลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่ และกลยุทธ์ด้านราคาที่แข่งขันได้ นอกจากนั้น เรายังนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสำหรับสี กาว และผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านอื่นๆ ซี่งเชื่อมั่นว่าจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest