เฉกเช่นเมนูทับทิมกรอบรากบัว... ที่ดัดแปลงวัตถุดิบหลักจากแห้วเป็น 'รากบัว' เพราะรากบัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งยังมีรสหวาน กรอบและอร่อย แต่เคล็ดลับการทำอาหารหรือขนมให้อร่อยนั้น การชั่งตวงวัด เพื่อคำนวณปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงการชิมรสชาติตามที่เราคุ้นเคยให้มีความกลมกล่อม ไม่หวานหรือเค็มจนเกินไป นับว่าเป็นข้อสำคัญที่คนทำขนมพึงปฏิบัติ จึงขอเสนอสูตรการทำทับทิมกรอบรากบัว ของ ผศ.สุวรรณี อาจหาญณรงค์ อาจารย์สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ผ่านการนำเสนอและเสิร์ฟเป็นขนมหวาน ในมื้ออาหารสำคัญ ๆ มามากมาย
"สูตรทับทิมกรอบรากบัว เริ่มต้นตั้งแต่การซื้อรากบัวสด หั่นเป็นท่อน แล้วขูดผิวดำ ๆ ออกให้เกลี้ยง ต้มในน้ำเดือดประมาณ 30 นาที แล้วหั่นเป็นลูกเต๋าสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ให้ได้ประมาณ 300 กรัม จากนั้นนำไปคลุกเคล้า หรือแช่ในน้ำหวานสีแดง (กลิ่นสละ) ประมาณ 5 -7 นาที ตักขึ้นและนำไปคลุกกับแป้งมัน กระจายเป็นเม็ด ๆ โดยใช้มือร่อนให้ทั่ว ขั้นตอนต่อมา คือ นำไปต้มในน้ำที่เดือด เมื่อสุกแล้วเม็ดทับทิมที่ได้จะลอยขึ้นมาและมีความใส มีสีชมพูราวกับทับทิม ตักขึ้นนำไปแช่ในน้ำเชื่อม"
"การทำน้ำเชื่อมให้อร่อย มีสีเหลืองใสและหอม มีวิธีการทำคือ เตรียมน้ำตาลทรายขาว 400 กรัม และน้ำลอยดอกมะลิ 300 กรัม นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้ละลาย จากนั้นใส่ใบเตยสด 5-6 ใบลงไปต้มให้มีความหอม พอเดือดให้ช้อนใบเตยทั้งหมดออก ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น จากนั้นเตรียมหัวกะทิสำหรับราดหน้าทับทิมกรอบรากบัว เพื่อตัดรสชาติทำให้ขนมนี้อร่อยมีความกลมกล่อม โดยใช้หัวกะทิสด 720 กรัม และเกลือ 3-5 กรัม นำไปตั้งไฟพอเดือดแล้วยกลง เมื่อเสร็จตามขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวแล้ว ให้ตักเสิร์ฟในถ้วยขนมหวาน ราดด้วยหัวกะทิ ใส่น้ำแข็งป่นละเอียด หรืออาจใส่ขนุนหรือมะพร้าวกะทิเพิ่มเติมลงไป เพื่อให้อร่อยยิ่งขึ้น" ผศ.สุวรรณี กล่าว
การทำขนมหวาน นอกจากความอิ่มอร่อยแล้ว จะช่วยให้เกิดความสุขขึ้นได้...สุขใจที่ได้ทำ และสุขที่เกิดจากการพิถีพิถันในแต่ละขั้นตอน ด้วยหน้าตาและสีสันของ "ทับทิมกรอบรากบัว" นี้ จะช่วยดึงดูดความสนใจให้ชวนมอง หวานหอม อร่อยและได้คุณประโยชน์ จึงไม่แปลกที่เมนูขนมหวานนี้ ได้รับคัดเลือกให้เสิร์ฟบนโต๊ะอาหารในมื้อสำคัญ ๆ มากมาย