กรีนพีซเปิดเผยรายงานใหม่จุดกระแสคนไทยไม่เอาจีเอ็มโอ

พฤหัส ๐๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๖ ๑๖:๑๕
การคัดค้านที่เกิดขึ้นทั่วประเทศต่อร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัยทางชีวภาพที่เต็มไปด้วยช่องโหว่เมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลต้องยกเลิกการพิจารณาร่าง และการห้ามการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในไร่นายังคงมีอยู่ ในวันนี้ภายใต้กระแสคนไทยไม่เอาจีเอ็มโอกรีนพีซได้เปิดเผยรายงาน "20 ปี แห่งความล้มเหลว จีเอ็มโอกับคำสัญญาลมๆแล้งๆ" ที่ทบทวนหลักฐานในเรื่องความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ความล้มเหลวทางการตลาด และใช้ยากำจัดศัตรูพืชที่เพิ่มขึ้น[1]

นายวัชรพล แดงสุภา ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านอาหารและเกษตรกรรมเชิงนิเวศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "คำมั่นสัญญาลมๆแล้งๆเพิ่มขึ้น แต่ความนิยมของพืชจีเอ็มโอนั้นตรงกันข้าม แม้ว่า 20 ปีของการตลาดเพื่อสนับสนุนจีเอ็มโอโดยกลุ่มเจรจาผลประโยชน์อุตสาหกรรมที่ทรงอำนาจเทคโนโลยีการดัดแปลงพันธุกรรมกลับได้รับการยอมรับในเพียงไม่กี่ประเทศและเป็นพืชเพียงไม่กี่ชนิด โดยพื้นที่ปลูกพืชจีเอ็มโอมีเพียงร้อยละ 3 ของพื้นที่ทำการเกษตรทั่วโลก แท้ที่จริงแล้ว ข้อมูลจากอุตสาหกรรมจีเอ็มโอแสดงให้เห็นว่า ร้อยละ 90 ของพื้นที่ปลูกพืชจีเอ็มโอทั้งโลกกระจุกตัวอยู่เพียง 5 ประเทศเท่านั้น และเกือบ 100 % ของพืชจีเอ็มโอเหล่านี้เป็นพืชเพียง 2 ชนิดเท่านั้น หนึ่งคือพืชต้านทานยากำจัดวัชพืช และสองคือพืชที่ผลิตพิษฆ่าแมลง ในขณะที่ทุกภูมิภาคทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยก็ปฏิเสธพืชจีเอ็มโอ ผู้บริโภคในยุโรปไม่กินอาหารจีเอ็มโอ และข้าวโพดจีเอ็มโอเป็นพืชจีเอ็มโอชนิดเดียวที่มีการปลูกในยุโรป ส่วนใหญ่ของทวีปเอเชียยังปลอดพืชจีเอ็มโอ อินเดียและจีนมีพื้นที่ปลูกพืชจีเอ็มโอ แต่ส่วนใหญ่เป็นพืชที่ไม่ใช่อาหารนั่นคือฝ้าย และมีเพียง 3 ประเทศเท่านั้นในทวีปแอฟริกาที่ปลูกพืชจีเอ็มโอ กล่าวง่าย ๆ คือ พืชจีเอ็มโอไม่ได้เลี้ยงคนทั้งโลก[2]"

รายงาน " 20ปีแห่งความล้มเหลว จีเอ็มโอกับคำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ" เปิดเผยถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพืชจีเอ็มโอซึ่งรวมถึง

พืชจีเอ็มโอเพิ่มปริมาณการใช้ยากำจัดศัตรูพืชเกือบทั้งหมดของพืชจีเอ็มโอถูกผลิตมาเพื่อสร้างพิษกำจัดศัตรูพืชหรือทนต่อการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดวัชพืชบางอย่าง ศัตรูพืชและวัชพืชมีการพัฒนาให้ต้านทานต่อพิษเหล่านี้ ทำให้เกิดแมลงและวัชพืชที่ดื้อยา ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรต้องใช้สารเคมีอยู่ตลอดเวลาพืชจีเอ็มโอไม่สามารถผลิตอาหารเพื่อเลี้ยงคนได้ทั้งโลก

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าพืชจีเอ็มโอไม่สามารถเพิ่มปริมาณผลผลิตและยังส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนเกษตรกรรมขนาดเล็ก ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางอาหารไม่มีความเห็นร่วมกันในทางวิทยาศาสตร์ว่าพืชจีเอ็มโอปลอดภัยแม้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพพยายามสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยของพืชจีเอ็มโอให้แก่ผู้บริโภค แต่นักวิทยาศาสตร์อิสระกว่า 300 คน ได้โต้แย้งในประเด็นนี้[3] นอกจากนี้ พันธุวิศวกรรมยังเป็นเทคโนโลยีที่เป็นภัยที่นำความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ และส่งผลกระทบอันไม่คาดคิดและไม่อาจย้อนคืนได้ต่อสิ่งแวดล้อม

"แม้ว่าร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัยทางชีวภาพถูกตีกลับไปยังกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐบาลไทยไม่เคยเรียนรู้บทเรียนหลังจากสองทศวรรษของการปนเปื้อนพืชจีเอ็มโอในประเทศไทย[4]" นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถีกล่าว "ขณะนี้สมาพันธ์เกษตร ปลอดภัยมั่นคง ยั่งยืนแห่งชาติ (NCSSSA)[5] จัดตั้งขึ้นและอ้างเป็นกลุ่มเกษตรกรไทยชั้นนำที่สนับสนุนรัฐบาลให้ผลักดันจีเอ็มโอ แต่จริงๆแล้วสมาพันธ์เกษตร ปลอดภัยมั่นคง ยั่งยืนแห่งชาติคือกลไกสนับสนุนจีเอ็มโอที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่นมอนซานโต และ ซีพี ควบคุมอยู่เบื้องหลัง อีกครั้งหนึ่งที่ประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยงจากการครอบงำของบรรษัท"

"กรีนพีซ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเปิดรับฟังความเป็นเหตุเป็นผลทางวิทยาศาสตร์ พิจารณาข้อมูล แข็งขืนต่อการโฆษณาชวนเชื่อของบรรษัท ยืนหยัดปกป้องประเทศไทยจากจีเอ็มโอ และสนันสนุนเกษตรกรรมเชิงนิเวศที่ยั่งยืน เกษตรกรรมเชิงนิเวศรับประกันถึงการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ อาหารสุขภาพของวันนี้และวันพรุ่งนี้ ด้วยการปกป้องดิน น้ำ และสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และไม่ทำให้สภาพแวดล้อมปนเปื้อนด้วยสารเคมี หรือจีเอ็มโอ"

หมายเหตุ

[1] รายงานเรื่อง "20 ปีแห่งความล้มเหลว จีเอ็มโอกับคำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ http://www.greenpeace.or.th/mailing/20yearsGMO_TH.pdf

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest