สรรพสามิตปรับขึ้นค่าแสตมป์ยาสูบบุหรี่ซิกาแรตหวังลดนักสูบหน้าใหม่

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาให้ปรับขึ้นค่าแสตมป์ยาสูบบุหรี่ซิกาแรต ทั้งอัตราภาษีตามมูลค่าและตามปริมาณ จากเดิมที่จัดเก็บในอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 87 หรืออัตราภาษีตามปริมาณ 1 บาทต่อ 1 กรัม และเศษของกรัมให้นับเป็น 1 กรัม ปรับเป็นอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 90 หรืออัตราภาษีตามปริมาณ 1.10 บาทต่อ 1 กรัม และเศษของกรัมให้นับเป็น 1 กรัม โดยให้เสียในอัตราที่คิดเป็นเงินสูงกว่า การปรับขึ้นอัตราค่าแสตมป์ยาสูบในครั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นการสนับสนุนนโยบายควบคุม การบริโภคยาสูบของรัฐ เพื่อลดการเข้าถึงของนักสูบหน้าใหม่และลดการบริโภคสินค้าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่ทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจาการบริโภคบุหรี่ โดยปัจจุบันมีการบริโภคบุหรี่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3-4 ต่อปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นไป

อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า จากการดำเนินตามนโยบายดังกล่าวคาดว่ากรมสรรพสามิตจะจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 15,000 ล้านบาท หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (กุมภาพันธ์ - กันยายน 2559) ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้ออกประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง กำหนดราคายาสูบที่ทำในราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 โดยกำหนดราคายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตที่ทำในราชอาณาจักร เพื่อถือเป็นราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ สำหรับใช้เป็นมูลค่าในการคำนวณค่าแสตมป์ยาสูบ

อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมสรรพสามิตได้สั่งการและกวดขันให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามพื้นที่ที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เช่น บริเวณแนวตะเข็บชายแดน แหล่งชุมชน และสถานบริการ เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพและถูกต้องตามกฎหมาย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมสรรพสามิต โทร/โทรสาร 0 2241 4778