หน่วยงานรัฐ – เอกชน กว่า 60 องค์กร ประกาศก้อง “สานพลังประชารัฐ” ยกทัพผนึกกำลังเพิ่มศักยภาพ SMEs ไทย ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

พฤหัส ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๖ ๐๙:๓๗
คณะทำงานด้านส่งเสริม SMEs & Start-up ดำเนินงานภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ – เอกชน กว่า 60 องค์กร จัดพิธีลงนามความร่วมมือครั้งสำคัญ เพื่อประกาศ "พลังประชารัฐ" ในการเสริมศักยภาพ และความเข้มแข็งให้กับ SMEs ไทย ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "สานพลังประชารัฐ ส่งเสริม SMEs Start-up & Social Enterprises" เมื่อวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุม C-ASEAN ชั้น 10 อาคารไซเบอร์ เวิลด์ กรุงเทพฯ เพื่อจัดโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ 3 กรอบหลัก คือ SMEs, Start-up และ Social Enterprise (SE) โดยได้รับกียรติจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนาม ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานร่วมภาครัฐ คณะทำงานด้านการส่งเสริม SMEs Start-ups & Social Enterprises และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานร่วมภาคเอกชนคณะทำงานด้านการส่งเสริม SMEs Start-ups & Social Enterprises ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม ระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษาต่างๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 60 องค์กร เชื่อมั่น สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริม SMEs ในการเข้าถึงแหล่งทุน พร้อมยังสามารถเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศได้

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการสร้าง และพัฒนาผู้ประกอบการไทย ให้มีความเติบโตอย่างมีศักยภาพ เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน "Strength from Within" ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs และ Startup สามารถเข้าถึงแหล่งทุน และสนับสนุนให้มีการทำธุรกิจเพื่อสังคมมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเข็มแข็งให้กับชุมชน โดยการร่วมกันสร้าง "Business Model" เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนดำเนินธุรกิจบนฐานความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดพลังในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและสังคม อย่างมั่นคง และยั่งยืน โดยภาครัฐจะเป็นผู้สนับสนุนและผลักดันนโยบายส่งเสริม SMEs และสร้างเวทีให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงยังพร้อมผนึกกำลังกับภาคเอกชน และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการเพิ่มศักยภาพ SMEs ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การดึงนักธุรกิจรายใหญ่ มาเป็นพี่เลี้ยง คอยให้คำปรึกษา ให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการ การตลาด รวมทั้งดึงสถาบันการเงินเข้าร่วม นอกจากนี้ ยังร่วมกับสถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นต้น

ด้าน ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานร่วมภาครัฐ คณะทำงานด้านการส่งเสริม SMEs Start-ups & Social Enterprises กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทุกกระทรวง มีการทำงานเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs มาโดยตลอดเพราะถือเป็นนโยบายหลักนโยบายหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เราได้ผนึกกำลังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุน และส่งเสริม SMEs มาแสดงเจตนารมย์ร่วมกัน ผ่านกลไก "ประชารัฐ" โดยดึงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาเป็นพี่เลี้ยงให้ SME รายเล็ก ดึงสถาบันการเงินเข้ามาเพื่อให้ SMEs เข้าถึงแหล่งทุน สร้างระบบ "Ecosystem" เพื่อสร้างโอกาส และเร่งรัดการเติบโตของ Startup และให้บริการด้านการเงิน เพื่อนำธุรกิจ Startup ก้าวไกลสู่สากล รวมทั้งสร้าง "Business Model" เพื่อส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) ให้ชุมชนดำเนินธุรกิจบนฐานความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และคงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมพื้นถิ่นไว้

"ตามที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายประชารัฐ สานพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค ประชาสังคม เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจเพื่อสังคมและระบบเศรษฐกิจ ฐานราก ให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนส่งเสริมให้ชุมชนดำเนินธุรกิจบนฐานความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "สานพลังประชารัฐ ส่งเสริมวิสาหกิจ SMEs Start-up & Social Enterprises" จึงเปรียบเสมือนเป็นเสียงตอบรับจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือในการขับเคลื่อน SMEs ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งจากภายในเสมือนสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันการผนึกกำลังกันเป็นเครือข่ายพร้อมๆ กับเชื่อมวิสาหกิจไทยสู่ตลาดโลก และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของประเทศชาติต่อไป" ดร.สุวิทย์ กล่าว

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าทีมคณะทำงานด้านส่งเสริม SMEs & Start-up ภาคเอกชน กล่าวว่า พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "สานพลังประชารัฐ ส่งเสริมวิสาหกิจ SMEs Start-up & Social Enterprises" ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวครั้งสำคัญ ในมิติการทำงานร่วมกัน ระหว่าง ภาครัฐ – เอกชน ซึ่งเป็นการผนึกกำลัง "พลังประชารัฐ" ที่ร่วมกันเสริมศักยภาพ SMEs ไทยของกว่า 60 องค์กร ที่มาร่วมประกาศเจตนารมย์ร่วมกันในวันนี้ ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกลุ่มภาคี จำนวน 7 ฉบับ ภายใต้ 3 กรอบหลัก คือ 1. กรอบ MOU SMEs มีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 4 ฉบับ ประกอบด้วย โครงการ Big Brother (พี่ช่วยน้อง), โครงการส่งเสริม SMEs เข้าถึงแหล่งทุน, โครงการส่งเสริม SMEs สู่ตลาดสากล, ส่งเสริมช่องทางการตลาด E-Commerce 2. กรอบ MOU Startup and IDE มีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 1 ฉบับ คือ การสนับสนุนและพัฒนาระบบนิเวศ (Eco-System) ให้ผู้ประกอบการใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (IDE Start-up) และ 3.กรอบ MOU Social Enterprise (SE) ซึ่งมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 2 ฉบับ คือ การสนับสนุนและส่งเสริมความเข้มแข็งของวิสาหกิจเพื่อสังคมและเศรษฐกิจฐานราก และการสนับสนุนด้านการเงิน (SE Funding)

"ไม่เพียงแต่การลงนามที่แสดงให้เห็นถึงพลังประชารัฐในครั้งนี้เท่านั้น แต่ในนามคณะทำงานด้านส่งเสริม SMEs & Start-up ภาคเอกชน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะให้การสนับสนุน การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs อย่างเต็มกำลัง และจะยังขยายผลไปสู่กลุ่มเครือข่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการ ในชุมชนสามารถเข้าถึงโครงการดีๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบการให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ชี้ช่องทางการจำหน่าย เพื่อให้กลุ่ม SMEs เติบโต เข้มแข็ง และสามารถไปแข่งขันในระดับโลกได้" นายสุพันธุ์ กล่าว

นอกจากพิธีลงนามความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ในงานยังมีการแถลงข่าวกิจกรรมส่งเสริม (SMEs & Start-up) อย่างโครงการ SME Matching Day 2016 มหกรรมจับคู่ดี SME แห่งชาติ โดย ธนาคารกสิกรไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest