ก.พลังงาน เดินหน้าโครงการลดปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ด้วยเทคโนโลยีพลังงาน นำซังข้าวโพดผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งแทนการเผาทิ้ง

จันทร์ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๖ ๑๕:๕๕
ก.พลังงาน เดินหน้าโครงการลดปัญหาหมอกควันภาคเหนือด้วยเทคโนโลยีพลังงาน เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม หมอกควัน ลดผลกระทบปัญหาสุขภาพประชาชนและกู้วิกฤตการท่องเที่ยว สนับสนุนการวิจัยนำเปลือก-ซังข้าวโพดมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งทดแทนการใช้ก๊าซ LPG และน้ำมันเตา ในภาคอุตสาหกรรม เตรียมพัฒนาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ หวังส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในประเทศให้เพิ่มขึ้น และเพิ่มรายได้เกษตรกรในพื้นที่

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพลังงานได้ลงพื้นที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการ "ลดปัญหาหมอกควันภาคเหนือด้วยเทคโนโลยีพลังงาน" ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือที่เกิดจากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายนของทุกปี ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน และที่สำคัญส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของพื้นที่ภาคเหนือ

กระทรวงพลังงาน จึงได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ทำการศึกษาวิจัยและนำร่องก่อสร้างโรงงานต้นแบบผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งขึ้น โดยนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่ ได้แก่ เปลือก ลำต้น ใบ และซังข้าวโพด มาทดลองผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซ LPG และน้ำมันเตาในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า เชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งจากของเหลือใช้จากข้าวโพด หรือ Corn Pellet ที่ผลิตได้ มีคุณภาพดี ให้ความร้อนสูง ขี้เถ้าน้อย และต้นทุนไม่สูงมากเกินไป ที่สำคัญ สามารถลดการเผาเปลือกและซังข้าวโพดในพื้นที่โล่งของ อ.แม่แจ่ม ได้ถึง 2,000 ตัน/ปี ช่วยลดฝุ่น และทำให้คุณภาพอากาศโดยรอบดีขึ้น

"จากผลสำเร็จในโครงการฯ กระทรวงพลังงาน จะมีการขยายผลพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งเพิ่มขึ้น ให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซ LPG และน้ำมันเตา เพื่อลดต้นทุนพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนตามเป้าหมายแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) และในอนาคต หากสามารถขยายผลใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนได้ ก็จะสามารถลดการเผาเปลือกและซังข้าวโพดได้มากถึง 585,000 ตันต่อปี ลดฝุ่นและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่สำคัญ ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคเหนือ สร้างรายได้เข้าประเทศอีกทาง" นายอารีพงศ์กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ ก๊าซ LPG และ น้ำมันเตา เป็นเชื้อเพลิงในปัจจุบัน หันมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดแทน กระทรวงพลังงานจึงได้เตรียมมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการใน 2 มาตรการ ได้แก่ 1. สนับสนุนด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ด้วยการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อการลงทุน และ 2. สนับสนุนเงินลงทุนบางส่วนให้ผู้ประกอบการ ที่ต้องการเปลี่ยนเฉพาะหัวเผาหม้อไอน้ำ เพื่อให้สามารถใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดได้ โดยสนับสนุนในอัตราร้อยละ 30 แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อแห่ง (นำร่อง 100 แห่งทั่วประเทศ) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์ผู้ที่จะยื่นข้อเสนอขอรับการสนับสนุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้