ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับกิจกรรมภายใต้โครงการดังกล่าว ได้มีการส่งเสริมการดำเนินงานในหลายมิติ ทั้งด้านคุณธรรมจริยธรรม อาทิ การสอนกีรออาตีให้แก่อุสตาด เพื่อนำไปขยายผลเปิดสอนกีรออาตีแก่เด็กและเยาวชน ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส หลังจากนั้นจะขยายกิจกรรมไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นๆ การอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจวิทยากรแกนนำเพื่อเสวนาธรรมการเรียนรู้โลกและสังคม เป็นต้น และด้านส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนด้านเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาสและสงขลา จำนวน 70 จุด ประกอบด้วย การจัดเวทีชาวบ้านเพื่อค้นหาความต้องการของชุมชนในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน และจัดกิจกรรมตามความต้องการของประชาชน อันนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน
"โครงการนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งในด้านคุณธรรม จริยธรรม และด้านศาสนา ที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้วิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย" ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว