ศัลยแพทย์ รพ.บางมด เผย “เฟสออฟ เฟสล็อค เฟสลิฟท์” สิ่งที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจก่อนทำศัลยกรรม

พฤหัส ๐๓ มีนาคม ๒๐๑๖ ๐๙:๕๑
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล. แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลบางมด เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวที่สร้างความสับสนในวงการศัลยกรรมตกแต่งว่า การทำเฟสออฟ เฟสล็อค และเฟสลิฟท์ ต่างกันอย่างไร วันนี้คุณหมอมาให้ความกระจ่างกันครับ

"เฟสออฟ (Face off) และ เฟสล็อค (face lock) นั้น ไม่ใช่ศัพท์ทางการแพทย์ครับ ผมขอเรียกว่าเป็น "ศัพท์ทางการตลาด" ที่ตั้งขึ้น และใช้เพื่อดึงดูดให้ผู้คนสนใจมากขึ้น ดังนั้น คนเราจึงสามารถตีความหรือจินตนาการได้ต่างๆนานา ตามแต่ การนิยามของแต่ละคนครับ ส่วนคำว่า เฟสลิฟท์ (Facelift) นั้นเป็นศัทพ์ทางการแพทย์ หมายถึงการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งใบหน้าคนเราแบ่งได้เป็นหลายส่วนเช่น ใบหน้าส่วนบนคือบริเวณหน้าผาก (Forehead), ใบหน้าส่วนกลาง (midface) บริเวณหางตา โหนกแก้ม, ใบหน้าส่วนล่างและคอ (lower face and neck) ซึ่งเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าก็มีหลายแบบมาก ดังนั้น คำว่า เฟสลิฟท์ จึงเป็นคำรวมๆ ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้อีก ตามเทคนิคการผ่าตัดและตามส่วนที่ผ่าตัด เช่น Full-facelift คือการผ่าตัดดึงหน้าทุกส่วนทั้งส่วนบน กลาง ล่าง และลำคอ Forehead lift คือการผ่าตัดดึงเฉพาะหน้าผาก Neck lift คือการผ่าตัดดึงเฉพาะบริเวณลำคอ

นอกจากนั้น ยังมีศัพท์อื่นๆ อีก ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะทางการแพทย์ของการทำ facelift เช่น mini-facelift, SMASectomy, SMAS plication, MACS lift ศัพท์เหล่านี้มีความหมายชัดเจนทางการแพทย์ แต่อาจจะเข้าใจยากสำหรับคนทั่วไป และไม่ใช่ศัพท์ที่ดึงดูดความสนใจแบบ "ศัพท์ทางการตลาด" อย่าง face off, facelock ครับ ดังนั้นหากต้องการทำศัลยกรรมดึงหน้า ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง และสอบถามให้เข้าใจชัดเจน ถึงวิธีการผ่าตัดที่แท้จริง เทคนิคที่แพทย์ใช้ แผลจะอยู่บริเวณไหน ต้องพักฟื้นนานเท่าไร ดูแลก่อน-หลังผ่าตัดอย่างไร เป็นต้นครับ"

"นอกจากนั้น ที่มีหลายคนสงสัยว่า การทำ Facelift จะทำให้หน้าเด็กลง 20 ปี จริงหรือไม่ ผมขอบอกว่า สามารถทำได้ครับ แล้วสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ สำหรับวงการแพทย์. เพราะจากผลการวิจัยโดยทั่วไปการดึงหน้าทุกส่วน (Full-facelift) จะสามารถทำให้หน้าดูเด็กลงโดยเฉลี่ย 10-20 ปีอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น ลักษณะผิว ,ความเหี่ยวย่นบนใบหน้าก่อนผ่าตัด, เทคนิคที่ใช้ผ่าตัด เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันเทคนิคทางการแพทย์มีการพัฒนาไปมาก การทำ facelift จึงทำให้การดึงหน้าเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก เพราะเมื่อก่อนการดึงหน้าถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องดมยาสลบ ผ่าตัดนานหลายชั่วโมง นอนรพ.หลายวัน หน้าบวมช้ำเป็นเวลานานมาก แต่ในปัจจุบัน เราสามารถทำ full-facelift

โดยการฉีดยาชา ใช้เวลาผ่าตัดเพียง 2-3 ชั่วโมง และที่สำคัญรอยบวมช้ำก็น้อยลง หลังผ่าตัดเสร็จก็สามารถกลับบ้านได้ไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล ยิ่งเราทำให้การผ่าตัดเป็นเรื่องง่ายขึ้น เจ็บน้อย บวมน้อย หายเร็ว เป็นธรรมชาติ นี่แหละคือสิ่งที่พัฒนาขึ้นในการทำ facelift ในปัจจุบัน" นพ.ธนัญชัย กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา