ดร. วีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งาน Global Rubber Latex & Tire Expo 2016 (โกลบอล รับเบอร์ ลาเท็คซ์ แอนด์ ไทร์ เอ็กโป 2016) หรือ GRTE 2016 งานแสดงสินค้านานาชาติสำหรับอุตสาหกรรมยาง น้ำยาง และยางล้อซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นเวทีการนัดพบระดับสากล สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยาง และอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น อุตสาหกรรมยาง, อุตสาหกรรมน้ำยาง และ อุตสาหกรรมยางล้อจากทั่วโลก งานในครั้งนี้ ได้รวบรวมนวัตกรรม และเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมยาง ซึ่งเราต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีและความรู้ของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับในเชิงธุรกิจ
"เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เราได้เปิดโครงการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรมเรียกว่า "Rubber City" หรือโครงการพัฒนาเมืองยางพารา ที่จังหวัดสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อผนึกกำลังผู้ประกอบการยาง รวบรวมกลุ่มอุตสาหกรรมประเภทเดียวกัน และจัดอยู่ภายใต้พื้นที่ใกล้เคียงกันเพื่อให้เป็น คลัสเตอร์ยางเพื่ออุตสาหกรรม โดยโครงการพัฒนาเมืองยางพารา เป็นรากฐานที่ดีเยี่ยมและเหมาะสำหรับการสร้างธุรกิจอุตสาหกรรมยางทุกประเภท ซึ่งบริหารจัดการภายใต้นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยได้มีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อมาประยุกต์ให้เข้ากับแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตแบบไม่มีที่สิ้นสุด โดยมีแผนกลยุทธ์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้สามารถเพิ่มราคายางดิบ และช่วยเหลือกลุ่มSMEs ในด้านวัตกรรม โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในการทำวิจัยและพัฒนา โดยโรงงานต้นแบบของเราได้ทำการทดลอง และถ่ายทอดวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดและให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยเหลือนักลงทุนรายย่อย (SMEs) ไปแล้วด้วย" ดร. วีรพงศ์ กล่าว
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ขึ้นกับกระทรวงอุตสาหกรรม บทบาทหลักของเราคือการพัฒนาและดูแลนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรม เช่น ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดในชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ซึ่งเป็นท่าเรืออุตสาหกรรมน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เราได้จัดให้บริการด้านสิทธิพิเศษ สิ่งจูงใจ และบริการเสริมเพิ่มมูลค่าสำหรับส่งเสริมการลงทุน ในเกือบ 44 ปีที่ผ่านมา เราได้มีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมไปแล้ว 55 แห่งภายใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ นอกจากจัดทำโครงสร้างพื้นฐานระดับมาตรฐานสากล เรายังจัดหานักลงทุนด้วย บริการอย่างมืออาชีพ เช่น One Stop Service และ Total Solution Center อีกด้วย
นายพีราม เอ็ม ซี พราซาดา ราว ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท เทคโนบิซ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ผู้ดำเนินการจัดงาน กล่าวว่า งาน Global Rubber Latex & Tire Expo 2016 (โกลบอล รับเบอร์ ลาเท็คซ์ แอนด์ ไทร์ เอ็กโป 2016) หรือ GRTE 2016 ทางบริษัท เทคโนบิซ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด และ ไชน่ายูไนเต็ดรับเบอร์คอร์ปอเรชั่น (CURC) ได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติสำหรับอุตสาหกรรมยาง น้ำยาง และยางล้อ บนพื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (Hall 103-104) ในระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2559 นี้ ภายในงานพบกับซัพพลายเออร์ด้านเทคโนโลยียาง น้ำยาง และยางล้อ อาทิ วัตถุดิบยาง เคมียาง เครื่องจักร อุปกรณ์เครื่องมือวัดและทดสอบสำหรับอุตสาหกรรมยาง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ยางและยางล้อ ที่จะมาร่วมออกบูธกว่า 250 บริษัท พร้อมกิจกรรมภายในงาน ทั้งงานแสดงสินค้า งานประชุมทางเทคนิค งานอบรมทางเทคนิคด้านยางกว่า 120 หลักสูตร เน็ทเวิร์คสำหรับผู้บริหาร งานซีอีโอดินเนอร์ งานวิจัยด้านยางกว่า 150 งานวิจัยจากนักวิจัยด้านยางทั้งในไทยและต่างประเทศ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ไฮไลท์ของงาน คืองานอบรมทางเทคนิคด้านยางกว่า 120 หลักสูตร ซึ่งเหมาะสำหรับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมยาง ทั้งวิศวกร ผู้จัดการ และเจ้าของกิจการ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับภาคอุตสาหกรรมยางในประเทศไทยที่จะเข้าร่วมอบรมหลักสูตรเฉพาะทาง งานอบรมทางเทคนิคด้านยางที่มีความหลากหลายในหลักสูตร ซึ่งคุณจะหาไม่ได้จากที่ใดในโลก นอกจากงาน GRTE 2016 ในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะงานนี้ และถือเป็นจุดนัดพบสำหรับการเรียนรู้และจุดนัดพบทางธุรกิจสำหรับอุตสาหกรรมยางจากทั่วโลก รวมถึงงานวิจัยนานาชาติด้านยางปี 2559 - Global Rubber Research Fair 2016" ซึ่งร่วมจัดแสดงในงาน GRTE 2016 เป็นการจัดแสดงวัตกรรมและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ด้านยางยาง และยางล้อ ด้วยจุดมุ่งหมายให้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักวิจัยและภาคอุตสาหกรรม
"สำหรับการจัดงาน GRTE 2016 มีผู้ประกอบการ ทั้ง ผู้ผลิตสินค้ายางวัตถุดิบ สารเคมียาง เครื่องจักรยาง การทดสอบอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ยาง เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 50 ประเทศทั่วโลก อาทิ ไทย จีน อินเดีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน อิตาลี และ ฝรั่งเศส โดยเราคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมยางในภูมิภาคอาเซียนและประเทศในแถบเอเชีย ประมาณ 7,000 คน และสำหรับประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางล้อชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงถือเป็นทำเลที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการจัดงาน เพื่อเชื่อมโยงอุตสาหกรรมยางจากทั่วโลกและทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมยางผ่านงานแสดงสินค้าครั้งนี้" นายพีราม กล่าว