อุตสาหกรรมแก้วและกระจกถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย ด้วยปริมาณการผลิตที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และยอดการส่งออกในแต่ละปีที่มีมูลค่าถึง 3.5 พันล้านบาท กับโรงงานผลิตมากกว่า 200 แห่ง และมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ 20 – 30 ต่อปี ซึ่งด้วยศักยภาพและการเติบโตที่มีมาอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้ผู้จัดงาน กลาสเทค 2016 เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงานพรีเซนเทชั่นเพื่อประชาสัมพันธ์และแนะนำงาน กลาสเทค2016 ให้กับผู้ประกอบการไทยและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแนะนำและนำเสนอข้อมูลแบบเจาะลึกเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมแก้วและกระจก โดยจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา
กลาสเทค 2016 ยังคงนำเสนอทุกแง่มุมของนวัตกรรม และแนวโน้มอุตสาหกรรม รวมถึงโซลูชั่นด้านต่าง ๆ อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมสนับสนุนงานสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ โดยเน้นข้อมูลเชิงลึกด้านการนำไปปฏิบัติงานจริง และด้านทฤษฎีวิทยาศาสตร์
"กลาสเทค 2016 เป็นงานแสดงสินค้าและนวัตกรรมที่ผู้ประกอบการไทยและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างสถาปัตยกรรม
การก่อสร้างอาคาร หน้าต่างและฟาซาด (เปลือกนอกของอาคาร) บรรจุภัณฑ์แก้ว อุตสาหกรรมกระจกรถยนต์ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ งานกระบวนการผลิตแก้วและกระจก และงานด้านเทคโนโลยีการผลิตแก้วและกระจก ซึ่งถือว่าเป็นงานแสดงที่นำเสนอเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแก้วและกระจกและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างหลากหลาย รวมไปถึงการแสดงพิเศษ การประชุมต่างๆที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้เข้าเยี่ยมชมงานชาวไทย" มร. ไมเคิล เดเก้น ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ จำกัด กล่าว "เราจะได้รับรู้อีกครั้งในปีนี้ถึงศักยภาพและประสิทธิภาพที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีกขั้นของวัสดุแก้วและกระจกที่ใช้งานได้อย่างหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าในจะเกี่ยวกับงานทางสถาปัตยกรรม วิศวกรรม หรืออุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาไปด้วยกันระหว่างอุตสาหกรรมกระจกและนวัตกรรม"
กลาสเทค ถือได้ว่าเป็นงานที่กำหนดทิศทางของภาคอุตสาหกรรม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการนำเสนอที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากเหล่าผู้แสดงสินค้า อีกส่วนคือการแสดงพิเศษ รวมถึงภายในงานยังจัดแสดงสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจให้ได้เยี่ยมชมมากมาย โดยภายในงานยังพร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และโซลูชั่นในอนาคตที่น่าจะเกิดใน 3-5 ปีข้างหน้า ในส่วนนิทรรศการพิเศษในงานนี้คืองานประชุมสัมมนาที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงนี้ พร้อมด้วยการเสวนาในหลากหลายหัวข้อที่เป็นที่สนใจกันอยู่ในขณะนี้
คุณวิวัฒน์ ศุปธรรม ประธานกรรมการ กลุ่มอุตสาหกรรมแก้วและกระจก สภาอุตสาหกรรมได้กล่าวว่า "งานแสดงสินค้านี้ถือว่าเป็นงานที่สำคัญอย่างมากต่อผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแก้วและกระจกในประเทศไทยที่ไม่ควรพลาดโอกาสสำคัญ ในการได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี เทคนิค และนวัตกรรม รวมถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมและทิศทางทางการตลาด เพื่อใช้ในการพัฒนาธุรกิจต่อไป จากข้อมูลตัวเลขผู้เข้าเยี่ยมชมงาน กลาสเทค 2014 มีผู้ประกอบการชาวไทยเกือบ 300 ราย และคาดหวังว่ายอดผู้เข้าร่วมงานชาวไทยในปีนี้จะมีมากขึ้นไปอีก"
กลาสเทค 2014 ที่ผ่านมานั้นได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานซึ่งมีศักยภาพสูงจากนานาชาติ มีจำนวนผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 ราย จากประเทศต่างๆมากกว่า 50 ประเทศ ผู้เข้าเยี่ยมชมงานถึง 43,000 คน ซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการจากนานาประเทศ และงาน กลาสเทค 2016 นี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ามากกว่า 1,200 ราย งาน กลาสเทค 2016 จะเปรียบเสมือนเวทีนัดพบระดับนานาชาติอีกครั้งสำหรับผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมในการมีโอกาสได้เข้าถึงข้อมูลของอุตสาหกรรมแก้วและกระจกอย่างครบ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อธุรกิจ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าเยี่ยมชมงาน โปรดเข้าชม
http://www.glasstec-online.com/ หรือ ติดต่อคุณ กนกอร คะดุน
บริษัท เอ็กโปซิส จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย
ในประเทศไทย โทร 02 559 0856-8 หรืออี-เมล [email protected]