พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเด็กหญิงวัย ๑๑ ขวบ ถูกชายวัยรุ่น ๔ คน ที่ตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้านและผู้ค้ายาเสพติด หลอกลวงไปรุมข่มขืนกระทำชำเราในบริเวณป่าข้างทาง หลังจากที่ผู้ปกครองพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว กลับมีคนแปลกหน้าพยายามเข้ามาเดินวนเวียนรอบบ้านเกือบทุกคืน สร้างความหวาดผวาให้กับผู้เสียหาย และครอบครัวเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะถูกฆาตกรรมปิดปาก ที่จังหวัดสระแก้ว ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว (พมจ.สระแก้ว) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจของกระทรวงฯ โดยเฉพาะการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิงและครอบครัวอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวต่อไป และกรณีพ่อ-แม่ พาลูกสาววัย ๗ ขวบ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกชายเพื่อนบ้านวัย ๔๒ ปี หลอกลวงไปกระทำอนาจารทางเพศและกักขังไว้ภายในบ้านพัก ขณะนั่งเล่นเพียงลำพังหน้าบ้าน ที่ย่านคลองเตย กรุงเทพฯ ตนได้กำชับให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ โดยเฉพาะการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิงและครอบครัวอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ ตนขอความร่วมมือพ่อ แม่ ผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิด ด้วยความรัก ความอบอุ่น และความเข้าใจ และไม่ควรปล่อยให้บุตรหลานต้องอยู่เพียงลำพัง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก อีกทั้งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่สำคัญในการป้องกันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กอีกทางหนึ่ง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีข่าวสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวชื่นชมพยาบาลสาววัย ๔๐ ปี ที่อุทิศตนเพื่อสังคม มานานกว่า ๑๖ ปี สละเวลาว่างในวันหยุด ช่วงพักเที่ยง หรือหลังเลิกงาน ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านดูแลผู้ป่วยติดเตียงกว่า ๓๐ คน โดยเฉพาะคนชรา เพื่อช่วยเหลือทำความสะอาดให้ถูกสุขอนามัย ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่าทุกครั้งที่ตนปฏิบัติหน้าที่จะทำอย่างเต็มที่ เพราะอยากให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยากเห็นรอยยิ้ม พร้อมเผชิญหน้ากับโรคภัย เป็นการสร้างกำลังใจแก่ผู้ป่วยและครอบครัว ที่จังหวัดปทุมธานี ตนขอชื่นชมในความมีจิตอาสา มีเมตตา อุทิศตนเพื่อสังคมในการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ทุกคนในสังคม