นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจของเถ้าแก่น้อยในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ว่า จะเน้นกลยุทธ์การสร้างกลุ่มลูกค้ารายใหม่ โดยในปีนี้จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เช่น การออกสินค้ารสชาติใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ประกอบกับมีแผนทำการตลาดในช่องทางที่เป็นกลุ่มทัวร์จากต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี
พร้อมกันนี้การใช้สื่อทางการตลาดครอบคลุม 360 องศา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ดิจิตอลทีวี อีเว้นต์ และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ณ จุดขาย ซึ่งในปี้นี้จะรุกหนักทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่ทางเถ้าแก่น้อยจัดขึ้นอย่างทั่วถึง มั่นใจว่ายอดขายทั้งปี 2559 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ก่อน โดยปัจจุบันตลาดรวมของ Seaweed Snack มีมูลค่า 2,552 ล้านบาท ขณะที่เถ้าแก่น้อยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 67%
นายอิทธิพัทธ์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ของเถ้าแก่น้อยส่งออกไป 35 ประเทศทั่วโลก และยังคงขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นตลาดจีนเป็นอันดับหนึ่ง เพราะมียอดขายในปีที่ผ่านมามากกว่า 800 ล้านบาท รองลงมาเป็นอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศต่าง ๆ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการให้ เถ้าแก่น้อย เป็นแบรนด์ขั้นนำในระดับเอเชีย และโกลบอลแบรนด์ตามลำดับ ซึ่งจะผลักดันสินค้าใหม่ที่สร้างความแตกต่าง เช่น iplus, seagle, zrollfarm รวมทั้งคัดเลือกตัวแทนกระจายสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ส่วนการบุกตลาด CLMV ในปี 2558 ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มียอดขายรวมมากกว่า 120 ล้านบาท ซึ่งประเทศที่มียอดขายและอัตราการเจริญเติบโตสูง ได้แก่ เวียดนามและพม่า ซึ่งในแต่ละประเทศจะนิยมสินค้าเถ้าแก่น้อยในกลุ่มสินค้าแตกต่างกัน เช่น พม่าชื่นชอบสินค้าสาหร่ายทอด บิ๊กชีท ขณะที่กัมพูชาและเวียดนามจะนิยมสาหร่ายย่าง เป็นต้น
นายอิทธิพันธ์ กล่าวต่อว่า เถ้าแก่น้อยทุ่มงบประมาณการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ในกิจกรรมทางการตลาดให้ครอบคลุม 360 องศา รวมทั้งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการตัดสินใจเลือก "ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเถ้าแก่น้อย เนื่องจาก "ใหม่ ดาวิกา" เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นด้านความสามารถและการดูแลตัวเอง การดูแลสุขภาพ ซึ่ง"ใหม่ ดาวิกา" มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของเถ้าแก่น้อย และเป็นนางเอกที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
สำหรับภาพยนตร์โฆษณาใหม่ล่าสุด "ท่าสาหร่าย" มีแนวคิดที่ต้องการตอกย้ำเรื่องความเป็นผู้นำตลาดขนมสาหร่ายตราเถ้าแก่น้อย โดยได้นำคำว่า " ถ้าสาหร่าย ต้องเถ้าแก่น้อย " มาเป็นลูกเล่นในการทำแนวคิดของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ กอรปกับปัจจุบันกระแสการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีและการเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ยังเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับคนในยุคปัจจุบัน