นางหวันเยาะ รับไทยทอง อายุ 69 ปี จังหวัดนครศรีธรรมราช หนึ่งในผู้สูงวัยที่เข้าร่วมโครงการภายใต้การดูแลของโรงเพาะฟักลูกกุ้ง และฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำภาคใต้ตอนล่าง กล่าวว่า เริ่มเข้าโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัยเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ตนเองป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน กล้ามเนื้อไม่มีเรี่ยวแรงต้องนอนติดเตียงมา 2 ปีกว่าแล้ว อาศัยอยู่กับสามีอายุ 75 ปี มีอาชีพทำประมงพื้นบ้าน และพี่สาว ทำให้ชีวิตตอนนี้ลำบากเพราะแก่ขึ้นทุกวัน ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำมาหากิน ดีใจที่ซีพีเอฟเข้ามาช่วยทั้งนำข้าวสาร อาหารมาให้ ทั้งยังมอบเงินช่วยเหลืออีกเดือนละ 2,000 บาท จึงนำเงินส่วนนี้ไว้สำหรับเดินทางไปหาหมอ นอกจากนี้ในแต่ละเดือนน้อง ๆ ซีพีเอฟก็เข้ามาแวะเยี่ยม มาพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ จึงรู้สึกดีใจ และมีกำลังใจขึ้นมา เพราะเคยมีบุตร 1 คน แต่เสียชีวิตไปแล้วตอนอายุ 18 ปี
อีกหนึ่งในผู้สูงวัยที่เข้าร่วมโครงการภายใต้การดูแลของฟาร์มวังชมภู นายน้อย พันจันทึก อายุ 69 ปี จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า ตนเองมีฐานะยากจน ต้องทำงานรับจ้างหาเลี้ยงปากท้องไปวันๆ วันไหนไม่มีงานก็ไปเก็บของเก่ามาขาย สุขภาพก็ไม่ค่อยแข็งแรง มือชา ขาชา หยิบจับสิ่งของไม่ค่อยได้เหมือนแต่ก่อน บ้านที่พักอาศัยอยู่เป็นบ้านเดี่ยวผนังส่วนหนึ่งของบ้านก่อด้วยปูนและทำจากแผ่นยิปซั่มสำเร็จรูป อาศัยอยู่คนเดียว จึงดีใจที่ซีพีเอฟเข้ามาดูแลนำข้าว อาหาร น้ำ และเบี้ยเลี้ยงมาให้ ทำให้สามารถประทังชีวิตในช่วงที่ไม่มีรายได้
ซีพีเอฟเริ่มดำเนินโครงการ "กองทุน ซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย" ตั้งแต่ปี 2554 โดยนำแนวคิดของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เกี่ยวกับหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ มาเป็นแนวทาง คือ การดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน เป็นหลักก่อนที่จะมองที่ประโยชน์ของบริษัทเป็นอันดับสุดท้าย ซึ่งในส่วนของภาคสังคมจึงต้องการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงวัยที่ถูกทอดทิ้ง เพราะผู้สูงวัยเหล่านี้ต่างเคยสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ สังคมและชุมชน จึงควรต้องกลับมาดูแล เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่า และมีความเป็นอยู่ที่ดีจนถึงบั้นปลายชีวิต ซึ่งถือเป็นค่านิยมหลักของซีพีเอฟเวย์ในเรื่องของการตอบแทนคุณ
สำหรับรูปแบบการให้ความช่วยเหลือ ซีพีเอฟจะมอบเงินเดือนละ 2,000 บาท ต่อคน โดยดูแลต่อเนื่องจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต มีผู้บริหารและพนักงานออกเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุเป็นประจำทุกเดือน สอบถามทุกข์สุขและความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยนำสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวของเครื่องใช้ อาหาร เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค เข้าไปให้ นอกจากนี้ยังดูแลหากผู้สูงวัยต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ซีพีเอฟก็จะเข้าไปช่วยปรับปรุง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค สภาพแวดล้อมของที่พักให้เหมาะสมกับการดำรงชีพ รวมถึงการจัดกิจกรรมกลุ่มด้านสังคมเพื่อสร้างคุณค่าทั้งทางร่างกาย จิตใจ และ อารมณ์ ให้แก่ผู้สูงอายุ เช่น กิจกรรมด้านศาสนา และด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่ซีพีเอฟได้อาสาเข้าไปดูแลผู้สูงวัยที่ถูกทอดทิ้งรวม 716 คน ใน 100 ชุมชนทั่วประเทศ ด้วยงบประมาณสนับสนุน 54 ล้านบาท./