รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และในฐานะนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สสอท.) เปิดเผยถึงยอดการรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเอกชนต่างๆ สำหรับ ปีการศึกษา 2559 หลังการประกาศผลแอดมิชชั่น
สำหรับปีการศึกษา 2559 นี้ มหาวิทยาลัยเอกชนทั่วประเทศ ยังสามารถรับนักเรียนที่มีความประสงค์จะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้อีกจำนวนมาก อาทิ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รับได้ 3,500 คน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 3,500 คน มหาวิทยาลัยศรีปทุม 3,000 คน มหาวิทยาลัยสยาม 3,000 คน มหาวิทยาลัยรังสิต 2,800 คน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 2,000 คน ฯลฯ
"ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยเอกชนจำนวนมาก ที่มีประสิทธิภาพทางด้านการศึกษา พิสูจน์ได้จากยอดบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเอกชนต่าง ๆ ที่สำเร็จการศึกษา แล้วมีงานทำตามสถานประกอบการ ทั้งในภาครัฐ และเอกชน" รศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าว
"นอกจากนี้ มีนักเรียนที่ไม่ประสงค์จะแอดมิชชั่นเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐ แต่เลือกที่จะเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนตั้งแต่เริ่มต้น โดยในบางคณะบางสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยเอกชนมีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เพราะมีอุปกรณ์เครื่องมือการเรียน การสอน ที่ทันสมัย และมีอาจารย์ที่มีคุณวุฒิสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ และมีตำแหน่งทางวิชาการจำนวนมาก ทั้งยังเน้นการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติควบคู่กัน เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณธรรม" รศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าวเสริม
นายกสมาคม สสอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้มหาวิทยาลัยเอกชนจะมีค่าเทอมบางหลักสูตรที่สูงกว่า มหาวิทยาลัยของรัฐ แต่ก็ยังมีกองทุน กยศ. และ กรอ. ที่รัฐสนับสนุนได้ การศึกษาคือการลงทุนอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้ความรู้ ซึ่งความรู้นั้นจะติดตัวเราไปตลอด
การลงทุนในครั้งนี้ตัวนักเรียนต้องวางแผนว่า เราอยากเป็นอะไร อยากทำงานอะไรในอนาคต และสถาบันการศึกษาเอกชนจะสามารถเติมเต็มสิ่งที่เราต้องการได้หรือไม่ เราก็ต้องหาข้อมูล ค้นหาคำตอบเพื่ออนาคตของเราเอง ช่วงนี้มหาวิทยาลัยเอกชนเตรียมความพร้อมเพื่อให้ข้อมูลต่างๆ แก่นักเรียนได้หลากหลายช่องทางทั้งทางโทรศัพท์ และทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง