กสอ.รุกดึงเอกชนญี่ปุ่นลงทุนไทย พร้อมเผย 4 กลุ่มอุตสาหกรรมโดนใจยุ่น คาดจับคู่ธุรกิจไม่ต่ำกว่า 50 ราย

พุธ ๒๒ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๘:๕๖
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม ดึงภาคเอกชนประเทศญี่ปุ่น14 รายร่วมกิจกรรมสัมมนาและเจรจาธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น โดยผลจากการจัดกิจกรรมพบ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นสนใจร่วมทุนในไทยได้แก่ อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งคาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจได้ไม่ต่ำกว่า 50 ราย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน กสอ.ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมความร่วมมือ ไทย-ญี่ปุ่นโดยสามารถดึงนักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนในไทยแล้วกว่า 700 กิจการ จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นอาทิ จังหวัดไซตามะ จังหวัดยามานาชิ จังหวัดอาคิตะ จังหวัดโทโทริและจังหวัดเกียวโต เป็นต้น

ทั้งนี้กสอ. ได้จัดกิจกรรมสัมมนาและเจรจาธุรกิจเพื่อที่จะยกระดับอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนาสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารยุทธศาสตร์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 โทรศัพท์. 0-2202-4501หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr

นายประสงค์ นิลบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่ากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)ได้จัดกิจกรรมสัมมนาและเจรจาธุรกิจ(Business Matching)ระหว่างผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นโดยมีบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่สนใจลงทุนในประเทศไทย จำนวน 14 บริษัท ได้แก่ บริษัทShowa electric MFGจำกัด (ออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์อิเล็คทรอนิกส์) บริษัท Matsui Corporationจำกัด (บริษัทจัดหาผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องยนต์) และ บริษัท Tanaka Foodจำกัด (ผู้แปรรูปและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากธัญพืช โดยใช้ข้าวหอมมะลิจากไทย)เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเสวนาให้ความรู้ผู้ประกอบการในหัวข้อเทคนิคการค้าและการลงทุนกับประเทศญี่ปุ่น และข้อควรระวังในการลงทุนร่วมกับต่างประเทศซึ่งการร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่นในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทย ได้รับองค์ความรู้ในการบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และยังส่งผลให้ผู้ประกอบการของญี่ปุ่นขยายฐานการผลิตในประเทศไทยและเกิดการจ้างงานในประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการสร้างโอกาสให้นักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของไทยได้ขยายการลงทุนตลอดจนก่อให้เกิดการรวมกลุ่มเครือยข่ายอุตสาหกรรม (Cluster) ที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย

นายประสงค์ กล่าวต่อว่า จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ พบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่ประเทศญี่ปุ่นมีความสนใจในการลงทุนในประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เนื่องจากไทยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบ การคมนาคมที่สะดวกทันสมัย และแรงงานที่มีศักยภาพ ทั้งนี้จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวคาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจได้ไม่ต่ำกว่า 50 ราย ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กสอ. ได้ดำเนินโครงการ"โต๊ะญี่ปุ่น"(Japan Desk) ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนา SMEsให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยเป็นความร่วมมือ ระหว่างรัฐกับรัฐ ซึ่งได้มีความร่วมมือกับจังหวัดต่าง ๆ ของญี่ปุ่น อาทิ จังหวัดไซตามะ จังหวัดยามานาชิ จังหวัดอาคิตะ จังหวัดโทโทริและจังหวัดเกียวโต เป็นต้น โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนในไทยกว่า 700 กิจการ จาก 19 หน่วยงาน อาทิ อุตสาหกรรมด้านสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทออุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะยังคงเน้นในการขยายความร่วมมือไปยังจังหวัดและเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นตามแต่ละพื้นที่ที่มีจุดเด่นสอดคล้องอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทยทั้งในด้านการค้าและอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของไทยรองจากประเทศจีน และมีการลงทุนสูงถึงร้อยละ 40 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดโดยพบว่าการลงทุนของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 1.6 แสนล้านบาท (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ซึ่งการร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไทยและญี่ปุ่น จะช่วยให้ไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นในหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและช่วยสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งขึ้นและหากสามารถขยายเครือข่ายอุตสาหกรรมไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ ก็จะทำให้เรายิ่งมีห่วงโซ่การผลิตที่เข้มแข็งในอนาคต นายประสงค์กล่าวสรุป

ทั้งนี้ กสอ. ได้จัดงานการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและประเทศญี่ปุ่น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อเร็วๆนี้โดยมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกว่า 100 ราย สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารยุทธศาสตร์กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 โทรศัพท์. 0-2202-4501หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๐ แคสเปอร์สกี้เผย บริษัทมากกว่าครึ่งในเอเชียแปซิฟิกใช้ AI และ IoT ในกระบวนการทางธุรกิจ
๑๗:๑๔ พร้อมจัดงาน สถาปนิก'67 ภายใต้ธีม Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์
๑๗:๓๓ โรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ จัดโปรโมชั่นฉลองเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๓๘ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยชาวสระแก้ว มอบศาลาที่พักผู้โดยสาร เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และเพื่อเป็นที่หลบแดดหลบฝน ณ
๑๗:๔๙ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดพิธีประสาทปริญญาบัตร พร้อมมอบดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 3 ท่าน
๑๗:๑๘ แน็ก ชาลี - มุก วรนิษฐ์ ชวนเปิดประสบการณ์ความเฟรช ในงาน Space of Freshtival 30 มีนาคมนี้ ที่ สยามสแควร์วัน
๑๗:๑๐ อิมแพ็ค จัดงาน Happy Hours: Wine Tasting Craft Beer ต้อนรับลูกค้าช่วงมอเตอร์โชว์
๑๗:๓๒ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานแพร่ มอบเครื่องมือพื้นฐานชุดการฝึก (ชุดเครื่องมือทำมาหากิน) รุ่นที่ 4/2567
๑๗:๕๒ ดีพร้อม ดึงผู้ประกอบการเงินทุนฯ ทั่วประเทศ เปิดพื้นที่ทดสอบตลาด จัดงาน พร้อมเปย์ ที่ DIPROM FAIR
๑๗:๔๕ เขตราชเทวีจัดเทศกิจกวดขันผลักดันผู้ค้าตั้งวางแผงค้ารุกล้ำบนทางเท้าถนนราชปรารภ