การออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคม (Universal Design หรือ UD) คือการออกแบบผลิตภัณฑ์รวมไปถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เอื้อให้ทุกคน ทุกกลุ่มสามารถใช้ได้อย่างเสมอภาคกัน โดยที่ไม่ต้องปรับแต่ง ดัดแปลง หรือออกแบบใหม่เป็นพิเศษ แต่อย่างใด แนวคิดของงานออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคม ทำให้มั่นใจได้ว่า ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการ ผู้บาดเจ็บ รวมถึงคนที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายต่างๆ แม้กระทั่งสตรีมีครรภ์ สามารถใช้สิ่งของต่างๆ และดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกง่ายดาย
"คอนเซ็ปต์เบื้องหลังของงานออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคม คือ ถ้าคุณออกแบบผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงความต้องการที่หลากหลายของผู้คนอย่างแท้จริง คุณก็จะไม่ต้องปรับแต่งหรือดัดแปลงงานออกแบบนั้นในภายหลังเลย งานออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคมจะทำให้ผู้คนที่กำลังประสบกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน ได้มีอิสระที่จะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ลดการพึ่งพาคนอื่นลง และมีโอกาสที่จะไล่ตามความฝันหรือทำตามความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น" มร. นาคากาว่า กล่าว
แนวคิดด้านการออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคมมีความสำคัญยิ่งกับการเตรียมพร้อมรับมือสังคมผู้สูงอายุของไทยที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนี้ จากข้อมูลของกรมประชาสัมพันธ์ ปัจจุบันประชากรสูงอายุของไทยมีจำนวนกว่า 8 ล้านคนแล้ว นับเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด และในอนาคตอีก 20 กว่าปีข้างหน้า ในปี พ.ศ. 2583 ได้มีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรสูงอายุของไทยจะมีมากถึง 17 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ
นายสันติ ศรีวิชาญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.ไอ.ที. จำกัด ผู้จัดงานสัมมนาในครั้งนี้ กล่าวว่า "ในฐานะที่คูโดสเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจและผู้ผลิตอุปกรณ์ในห้องน้ำในประเทศไทย เรามีความพยายามที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมาโดยตลอด และจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย ก็ถือเป็นอีกโจทย์ที่ท้าทายความสามารถของผู้ผลิตและอุตสาหกรรมในประเทศนี้ ประเทศไทยมีความจำเป็นที่ต้องเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบรับความต้องการของผู้สูงวัย รวมไปถึงเด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายต่างๆ ด้วย และหากเราลองมองจากอีกมุมหนึ่ง ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ น่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรนี้เป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ในการขยายตลาด กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมถึงคนเหล่านี้ด้วย"
ไฮไลท์ของงานสัมมนา Kudos Universal Design ครั้งนี้ คือการบรรยายในหัวข้อ "Design Thinking for Well Being" (การออกแบบเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคม) โดย มร.ซาโตชิ นาคากาว่า กูรูด้าน Universal Design จากญี่ปุ่น ซึ่งเน้นการเรียนรู้แนวคิดของการออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคม และการนำไปปรับใช้ในงานออกแบบ ร่วมด้วย นายสุทธิพันธ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้ง บริษัท แอท แวนเทจ จำกัด และผู้ช่วยศาสตราจารย์ กุลธิดา เตชวรสินสกุล จากภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลัก 7 ประการที่สำคัญของการออกแบบเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคม คือ
ความเสมอภาค (Equitable Use) งานออกแบบนั้นจะไม่กีดกันคน ไม่ว่ากลุ่มใดๆ ออกจากการใช้งาน
ความยืดหยุ่น (Flexibility in Use) งานออกแบบนั้นตอบสนองต่อความสามารถและความถนัดในการใช้งานที่หลากหลาย
ความเรียบง่าย (Simple and Intuitive Use) ผู้ใช้สามารถเข้าใจการใช้งานสิ่งนั้นๆ ได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ ความรู้ หรือทักษะทางภาษาขั้นสูง
การรับรู้ข้อมูลแบบมีทางเลือก (Perceptible Information) งานออกแบบนั้นให้เฉพาะข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำกัดว่าสภาวะแวดล้อม หรือประสาทสัมผัสในการรับรู้ของผู้ใช้งานเป็นอย่างไร
สามารถทนต่อการใช้งานที่ผิดพลาด (Tolerance for Error) งานออกแบบนั้นได้เตรียมพร้อมลดความอันตรายหรือลดผลกระทบจากการใช้งาน ในกรณีที่เกิดความผิดพลาด อุบัติเหตุ หรือการกระทำที่ไม่คาดคิด
ใช้แรงน้อยและไม่เกิดภาระในการใช้งาน (Low Physical Effort) ผู้ใช้สามารถใช้งานสิ่งเหล่านั้นได้อย่างสะดวกสบายและไม่เกิดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
ขนาดและพื้นที่ที่จะให้เราเข้าไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม (Size and Space for Approach and Use) งานออกแบบนั้นมีขนาดและพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการใช้งานและการจัดการ ไม่ว่าขนาดตัว บุคลิกภาพ ท่าทาง หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวของผู้ใช้จะเป็นอย่างไร
ตัวอย่างเช่น ประตูแบบมาตรฐานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นแบบลูกบิด หรือแบบดึง-ผลัก ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ทุกกลุ่ม แต่ถ้าเพียงนำสวิตช์ขนาดใหญ่ไปติดตั้งเพิ่ม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกดเปิดประตูได้ ประตูนั้นก็จะสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้มากขึ้น อาทิ กลุ่มผู้ใช้วีลแชร์ เป็นต้น นอกจากนี้การนำหลักการออกแบบ Universal Design มาใช้ สามารถนำไปสู่การติดตั้งอุปกรณ์เซนเซอร์ที่ประตู เพื่อส่งสัญญาณให้ประตูเปิดเมื่อมีคนเดินเข้ามาใกล้ ทำให้ทุกคนทุกกลุ่มสามารถใช้ประตูนั้นได้อย่างเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กตัวเล็กๆ คนส่งพัสดุที่ถือกล่องขนาดใหญ่ หญิงชรา ผู้ใช้วีลแชร์ รวมถึงผู้ที่มีข้อจำกัดทางด้านร่างกายอื่นๆ ด้วย
"ในโลกของอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตทุกวันนี้ ความเข้าใจและการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนกลายเป็นสิ่งที่ถูกละเลยไป โดยเฉพาะเมื่อต้องลดต้นทุน โดยการผลิตในปริมาณมากๆ และกระจายสินค้าต่างๆ ออกไปให้ถึงผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ได้มากที่สุด เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก หรืออีกนัยหนึ่ง ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในสังคมทุกวันนี้ก็ต้องประสบกับปัญหาวุ่นวายในการใช้งานสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ไม่ค่อยสะดวกสบาย ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา นอกจากนี้ ผู้ผลิตและภาคอุตสาหกรรมได้ละเลยกลุ่มผู้ที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายต่างๆ รวมถึงผู้พิการ ปล่อยให้คนกลุ่มนั้นดำเนินชีวิตอย่างยากลำบาก ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนจะเริ่มนึกถึงและให้ความสำคัญกับผู้คนที่มีข้อจำกัดเหล่านี้ให้มากขึ้น และเพื่อให้แน่ใจว่างานออกแบบต่างๆ นับจากนี้ต่อไป จะเป็นงานออกแบบที่ทำเพื่อคนทุกกลุ่มในสังคมอย่างแท้จริง" มร. นาคากาว่า กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับปีนี้ คูโดสได้ริเริ่มโครงการประกวดออกแบบก๊อกน้ำ Kudos Faucet Design Award 2016 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ ให้ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์สังคมในอนาคต โดยหัวข้อที่กำหนด คือ Universal Design หรือการออกแบบเพื่อความเสมอภาคของทุกคนในสังคม นับเป็นครั้งแรกของวงการก๊อกน้ำไทย ที่มีการริเริ่มผลักดันให้มีการนำแนวคิด Universal Design มาใช้ออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างเป็นรูปธรรม
จากรูปประกอบซ้ายไปขวา
นายสุทธิพันธ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้ง บริษัท แอท แวนเทจ จำกัด
นายสันติ ศรีวิชาญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.ไอ.ที. จำกัด
มร. ซาโตชิ นาคากาว่า กูรูและนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ไตรพอด ดีไซน์ (ประเทศญี่ปุ่น)
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กุลธิดา เตชวรสินสกุล ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย