การอบรมแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๓ ส่วนสำคัญ บนพื้นฐานของความรู้และทักษะเฉพาะขั้นต้นเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ประกอบด้วยดังนี้
๑. ทักษะผู้นำกระบวนการ
พัฒนาภาวะผู้นำที่รักและรู้จักตนเอง มีเครื่องมือและทักษะที่สามารถนำการเรียนรู้ร่วมกัน อาทิ การตั้งคำถาม การจับประเด็น การสะท้อน การฟังอย่างลึกซึ้ง เป็นต้น การรู้จักและเข้าใจสังคมผ่านมุมมองกระบวนทัศน์ใหม่ ร่วมกับการใช้กิจกรรมและศิลปะ ประยุกต์ใช้เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับตนเองและคนรอบข้าง
๒. การเปิดรับของจิตใจ
เรียนรู้ธรรมะจากกลไกของจิตใจ เรียนรู้การยึดติดและการคลี่คลายผ่านอุบายและกิจกรรม เพื่อการเติบโตของตนเองและการสร้างการเรียนรู้ที่เปิดกว้างแก่ผู้อื่น
๓. สัญญาณชีวิต
ฝึกที่จะฟังและสังเกตสัญญาณของชีวิตที่เกิดขึ้นรอบตัว เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นปัญญาและกระบวนการเรียนรู้
การอบรมอยู่บนพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้แบบผ่านประสบการณ์และการมีส่วนร่วม ในแนวคิดของจิตปัญญาศึกษา และ กระบวนทัศน์ใหม่ พร้อมทั้งองค์ความรู้ด้านจิตวิทยาที่เกี่ยวเนื่อง เน้นการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับชีวิตและผู้เข้าเรียน ผ่านปัญญา ๓ ฐาน ด้วยกิจกรรมกลุ่ม การสนทนา ศิลปะ และการภาวนา
ทั้งนี้จะสอดแทรกทักษะพื้นฐานให้ได้ฝึกฝนและเรียนรู้ จากองค์ความรู้ ทักษะ และทัศนคติการจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยเน้นให้ฝึกปฏิบัติจากชีวิตจริง เป็นนักจัดกระบวนการเรียนรู้ให้แก่ตนเองได้ มิว่าต้องการเป็นผู้จัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้อื่นหรือไม่ ทักษะของการจัดกระบวนการเรียนรู้ อย่าง การตั้งคำถาม การรับฟัง การจับประเด็น การอ่านสัญญาณ ฯลฯ ล้วนเป็นศักยภาพที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่องของชีวิต
การอบรมครั้งนี้เน้นการฝึกทักษะผู้นำกระบวนการขั้นต้น ควบคู่กับการพัฒนาชีวิต จึงมีช่วงฝึกนำกระบวนการให้กับตนเองและเพื่อน ตลอด ๑๐ วันของการอบรม ผู้เข้าร่วมมีโอกาสได้เป็นครู เป็นนักบำบัดเยียวยา และผู้นำให้แก่กัน
หลักการและเหตุผล
การจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยแนวทางจิตปัญญาศึกษาหรือกระบวนกร รวมทั้งศาสตร์และศิลป์การจัดการเรียนรู้ด้วยองค์ความรู้จิตไร้สำนึก การสะกดจิต จิตบำบัดด้วยเทคนิคจิตวิทยาสมัยใหม่ เป็นที่เผยแพร่อย่างหลากหลายในสังคมปัจจุบัน ภายใต้หัวข้อหลากรูปแบบทั้งการพัฒนาภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม การรู้จักตนเอง การเยียวยา ศิลปะ และความเป็นครู เป็นต้น สถาบันธรรมวรรณศิลป์ได้ใช้องค์ความรู้ทั้งสองข้างต้นผนวกกับการเขียนบันทึกเกิดองค์ความรู้การเขียนเปลี่ยนชีวิต การเขียนเพื่อการเยีวยา และการเขียนเพื่อรู้จักตนเอง ดังรายละเอียดหลักสูตรทางสื่อสถาบันฯ
ทั้งนี้องค์ความรู้ทั้งสามมิได้ผูกขาดอยู่เพียงครู ผู้นำกระบวนการ หรือแต่ในห้องอบรมเท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะและการเรียนรู้ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริง และทุกคนสามารถนำกระบวนการเรียนรู้ลักษณะเดียวกันนี้จัดกระบวนการให้แก่ตน คนรอบข้าง และกลุ่มคนที่ทำงาน ตลอดถึงเป็นครูรุ่นใหม่ ครูแนวทางใหม่ผู้นำความรู้ออกจากหัวคิด จิตใจ ร่างกาย และชีวิตของผู้เรียน ซึ่งอาจมิได้เป็นครูสอนในระบบการศึกษา แต่เป็นครูแก่ตนเองและเพื่อนชีวิต
สถาบันธรรมวรรณศิลป์ตั้งใจสร้างหลักสูตรอบรมต่อเนื่องในขั้นต้นนี้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว คือการพัฒนาทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ชีวิตตนเองและคนรอบข้างได้ และเพื่อบ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่สำหรับสังคมไทยทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า อีกทั้งยังตั้งใจให้ชุดการอบรมต่อเนื่องเป็นมากกว่าการเข้าอบรม แต่เป็นพื้นที่ของการเพาะปลูกศักยภาพร่วมกัน หมายถึงแม้จบการอบรมก็ให้มีการอบรมระหว่างผู้เรียนร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งจัดกระบวนการโดยสถาบันฯหรือโดยผู้เรียนด้วยกันที่มีองค์ความรู้ต้องการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
ทักษะที่ฝึกฝนในชุดอบรม
-การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) การรับฟังอย่างให้พื้นที่เปิดกว้างแก่ภายในและผู้อื่น
-การจับประเด็น เป็นทักษะการทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน หรือสามารถดึงจุดสำคัญออกมาใช้
-การตั้งคำถาม ให้เปิดกว้าง ลงลึก ชี้จุดสำคัญ หรือกระตุ้นเตือน คำถามที่ดีดั่งเข็มทิศชีวิตที่ต้องใส่ใจ
-การสะท้อนและทวนคืน (Reflection) เป็นกระจกให้ตนเองและผู้อื่นเข้าใจสิ่งที่ตนเป็น ได้แสดงออก ถ่ายทอด หรือไม่เข้าใจ ได้อย่างกระชับและทรงพลัง
-การอ่านสัญญาณ (Signal) การสังเกตสัญญาณหรือปรากฏการณ์ที่มีความหมาย เพื่อทำความเข้าใจหรือสร้างความตระหนักรู้
-การขยายสัญญาณ (Amplify) การเล่นล้อและลงลึกกับสัญญาณที่เราได้สังเกต เพื่อทำความเข้าใจหรือน้อมนำมาใช้ในหลากหลายแง่มุม
-การออกจากกรอบคิด เป็นการฝึกใช้พลังสร้างสรรค์เพื่อจัดการเรียนรู้ให้กับชีวิตของตนเองและผู้อื่น
สิทธิประโยชน์เมื่อเรียนจบหลักสูตร
ผู้สำเร็จหลักสูตร "ห้องเรียนนักกล้าฝัน : บ่มเพาะชีวิตและหัวใจด้วยทักษะผู้นำกระบวนการ ขั้นต้น"
สามารถสมัครเข้าเรียนในหลักสูตร "ห้องเรียนนักกล้าฝัน ชั้นสอง" ซึ่งเป็นพื้นที่การเติบโตทางความคิด จิตใจ และจิตวิญญาณ ให้สมาชิกได้แลกเปลี่ยนความรู้ นำกิจกรรมกระบวนการ และต่อยอดทักษะกับองค์ความรู้เพิ่มเติม โดยบริจาคค่าใช้จ่ายรายครั้งตามอัธยาศัย
หลังการอบรมขั้นที่สอง ผู้เข้าเรียนสามารถเรียนรู้ต่อยอดเพื่อเป็นนักจัดกระบวนการเรียนรู้ (Facilitator)
สิทธิเพิ่มเติม ผู้เข้าเรียนหลักสูตร "ห้องเรียน นักกล้าฝัน" รุ่นที่สอง สามารถเข้าเรียนหลักสูตร "ห้องเรียน นักเขียนบำบัด" ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙ โดยค่าใช้จ่ายตามบริจาคหรือเพียงช่วยสนับสนุนอาหารว่าง
ระยะเวลาและหัวข้อ
การอบรมชุด "ห้องเรียน นักกล้าฝัน" ใช้เวลาทั้งสิ้น ๘ วัน (ไม่มีภาคค่ำ) โดยอบรมในวันเสาร์อาทิตย์แรกของเดือน
• วันที่ ๓ ถึง ๔ กันยายน ๒๕๕๙ เนื้อหาหลัก วันแรก "พื้นที่ชีวิตและความสัมพันธ์ในการเรียนรู้" ทักษะหลักที่ฝึก : การตั้งคำถาม การฟังอย่างลึกซึ้ง
เนื้อหาหลัก วันที่สอง "ความเข้าใจตนเองกับทฤษฏีพื้นฐาน" ทักษะหลักที่ฝึก : การทวนคืน การสะท้อน
• วันที่ ๑ ถึง ๒ ตุลาคม ๒๕๕๙ เนื้อหาหลัก วันแรก "สัญญาณแห่งชีวิต" ทักษะหลักที่ฝึก : การสังเกตสัญญาณ การขยายสัญญาณ การโอบอุ้มพลังกลุ่ม
เนื้อหาหลัก วันที่สอง "สภาพสังคมกับการเปลี่ยนแปลงปัจเจกบุคคล" ทักษะหลักที่ฝึก : การสังเคราะห์ การสรุป การจับประเด็น
• วันที่ ๕ ถึง ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เนื้อหาหลัก วันแรก "ความกลัวเพราะการยึดติด" ทักษะหลักที่ฝึก : การสังเกตสัญญาณ การตั้งคำถาม
เนื้อหาหลัก วันที่สอง "ข้ามขอบ" ทักษะหลักที่ฝึก : ความคิดสร้างสรรค์ การโอบอุ้มพลังกลุ่ม การนำวงกระบวนการ
• วันที่ ๓ ถึง ๔ ธันวาคม ๒๕๕๙ เนื้อหาหลัก วันแรก "การภาวนากับการเรียนรู้" ทักษะหลักที่ฝึก : การภาวนา การนำวงกระบวนการ
เนื้อหาหลัก วันที่สอง "ปฏิบัติสู่ปฏิบัติ" ทักษะหลักที่ฝึก : การภาวนา การนำวงกระบวนการ
ประเภทบุคคลทั่วไป
กรอกใบสมัครได้ที่http://goo.gl/forms/pDiMxlHFtVjIyC3W2
ติดต่อสอบถามได้ที่www.dhammaliterary.org