นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า "การจัดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 4 Thailand International Film Destination Festival 2016 : TIFDF2016 ในปีนี้ตลอดเทศกาลที่จัดขึ้นประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจและช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งเปิดฉากเทศกาลด้วยการจัดการแข่งขันภาพยนตร์สั้นโดยเหล่านักศึกษาด้านภาพยนตร์จากทั่วโลก ที่ได้มีการคัดเลือกจนเหลือ 32 ทีม พร้อมด้วยทีมประสานงานที่เป็นนักศึกษาชาวไทย ได้ลงพื้นที่ใน 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์สั้น เพื่อถ่ายทอดมุมมองผู้สร้างภาพยนตร์ที่ดีที่สุด ผ่านจุดหมายปลายทางและสถานที่ถ่ายทำที่ดีที่สุด ด้วยการผสานความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ "ความเป็นไทยThainess" มาถ่ายทอดผ่านสื่อภาพยนตร์ โดยนำเสนอในรูปแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ ซึ่งจะสะท้อนวิถีชีวิตของคนไทย ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความรัก ความสามัคคี และความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิตรไมตรีของคนไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมงานไทยและสถานที่ที่จะเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำที่โดดเด่นไม่เหมือนชาติใด โดยภาพยนตร์สั้นที่ถือเป็นผลผลิตที่มีคุณค่าจากการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารความงดงามและคุณค่าของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกต่อไป"
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ คือ การจัดฉายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทย โดยการนำภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกที่เลือกใช้ประเทศไทยเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำมาจัดฉายให้ประชาชนชาวไทยได้รับชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย มีภาพยนตร์เรื่องดังมาฉายรวม 10 เรื่อง และปิดท้ายด้วยการมอบรางวัลแก่ผู้ชนะในการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย ที่มีการแบ่งพื้นที่การแข่งขันทั่วประเทศออกเป็น 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ.2558 – 2560 ได้แก่
- รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Grand Prize) 1 รางวัล ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 300,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัล ได้แก่ ทีมจากประเทศสเปน จากภาพยนตร์เรื่อง NOW I know
- รางวัลผู้ชนะเลิศจาก 8 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว จำนวน 8 รางวัล ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัล
รางวัลชนะเลิศจากเขตอารยธรรมล้านนา ได้แก่ ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง Lake Guard
รางวัลชนะเลิศเขตอารยธรรมอีสานใต้ ได้แก่ ทีมจากประเทศคาซัคสถาน จากภาพยนตร์เรื่อง Letter
รางวัลชนะเลิศเขตฝั่งทะเลตะวันออก ได้แก่ ทีมจากประเทศแอฟริกาใต้ จากภาพยนตร์เรื่อง Goodbye in Thai
รางวัลชนะเลิศเขตฝั่งทะเลตะวันตก ได้แก่ ทีมจากประเทศอเมริกา จากภาพยนตร์เรื่อง Sweet Success
รางวัลชนะเลิศเขตอันดามัน ได้แก่ ทีมจากออสเตรเลีย จากภาพยนตร์เรื่อง Muay Thai-The Spirit of Ram Muay
รางวัลชนะเลิศเขตมรดกด้านวัฒนธรรม ได้แก่ ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง Friend
รางวัลชนะเลิศเขตวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ทีมจากประเทศสเปน จากภาพยนตร์เรื่อง NOW I know
รางวัลชนะเลิศเขตลุ่มเจ้าพระยาตอนกลาง ได้แก่
ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง My Redemption
- รางวัลพิเศษ 1 รางวัลสำหรับผลงานที่สร้างกระแสตอบรับได้อย่างดีทาง Social Media ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัล ได้แก่
ทีมจากประเทศฟิลิปปินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง Grandfather
ทั้งนี้การจัดเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ถือเป็นเวทีสำคัญในการต่อยอดความสำเร็จของประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในภูมิภาคเอเซีย และเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในทุกปี เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้ได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยได้รับความร่วมจากทั้งทางภาครัฐและเอกชน รวมไปถึง ผู้กำกับ ดารา นักแสดง และบุคคลากรของวงการภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นจุดหมายในการถ่ายทำภาพยนตร์ของโลก " นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวปิดท้าย