"ผ้าซิ่นคือหนึ่งในเอกลักษณ์ไทย เป็นความงาม เป็นศิลปบนพื้นผ้า ที่สะท้อนภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ในแต่ละภาค ในแต่ละชุมชน ผ้าซิ่นที่มีมาแต่โบราณ เช่น ผ้าซิ่นมัดหมี่ ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าซิ่นลายแตงโม ผ้าซิ่นเชียงแสนและผ้าซิ่นทิวมุก ฯลฯ หรือผ้าซิ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่เช่น...ผ้ายกดอกลำพูน ต่างก็เป็นหนึ่งที่สะท้อนถึงความไทย ความงามและศิลปบนพื้นผ้าเหล่านี้ควรถูกนำเสนออย่างต่อเนื่อง จนถึงการสนับสนุนอย่างจริงจังให้นำมาใช้ในชีวิตประจำ การจัดงานในวันนี้จึงเป็นเพียงเสี้ยวเล็ก ๆ จากมุมมองของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องการเห็นความงดงามเหล่านี้เลือนหายไป นุ่งซิ่น กินเมี่ยง จึงเป็นการรวบยอดความคิดของ คนกลุ่มเล็ก ๆ ดังกล่าว นำมาสู่กิจกรรมซีเรียสแบบชวนหัว ที่เก๋ไก๋ เพราะแทนที่จะนุ่งซิ่น ไปประชันกันในงานหรูหรา พวกเราแค่บอกว่า ทุกคนเอาซิ่นสวย ๆ ที่มีอยู่ ใส่มากินเมี่ยง (อาหารประจำฤดูฝน) แล้วเมาท์มอยกันอย่างมีความสุข แล้วถ้าใครมีผ้าซิ่นสวย ๆ ลายแปลกตาก็ถือมาอวดกัน" คุณมรกต ยิบอินซอย กล่าว
คุณแววรัตน์ ชำนาญภักดี ผู้อำนวยการสายงานบุคคลและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยิบอินซอย จำกัดและบริษัทในเครือ กล่าวว่า
การจัดงานในวันนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างจากพันธมิตรใน นามกลุ่มใบไม้ในเมือง อันได้แก่ ยิบอินซอย POET (Partnership On Eco Textile), Something Special, Noise Market และเครือข่ายตลาดสีเขียว ร่วมกันจัดงานด้วยกิจกรรมหลากหลายที่มากด้วยสีสรรค์และสาระ โดยเฉพาะกิจกรรมเสวนา "นุ่งซิ่น ใครว่าเชย" ที่ได้กูรูด้านผ้าไทยอย่าง คุณทิวาพร เสกตระกูล และคุณนพมาศ ภัทรกุล มาเปิดมุมมองที่หลายคนไม่เคยรู้และทำให้รู้สึกรักในความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น กิจกรรมอื่นๆ เช่นนิทรรศการผ้าซิ่น การประกวดรางวัลแต่งกายผ้าไทยทั้งประเภทสวยงาม ประเภทสร้างสรร และแบบร่วมสมัย การแนะนำการนุ่งผ้าไทยแบบไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และแนะนำการนุ่งซิ่นสวยแบบง่าย แข่งขันการนุ่งซิ่น และเกมส์ "แฟนพันธ์แท้ ผ้าไทย" ฯลฯ สาระและความสนุกที่ได้รับจากการร่วมงาน ตามเจตนารมณ์ที่ผู้จัดงานคาดหวัง ต้องขอชื่นชมและขอบคุณทุกท่านๆที่มางาน"นุ่งซิ่น กินเมี่ยง" งานเล็ก ๆ แต่อบอุ่นและอิ่มใจในความเป็นไทยร่วมสมัยที่เราภูมิใจในการคงไว้ซึ่งคุณค่าเชิงวัฒนธรรมร่วมกัน