ยูพีเอสพิชิตเป้าหมายระยะทางขนส่งโดยใช้ พลังงานทดแทนครบ 1 พันล้านไมล์ก่อนกำหนด

พฤหัส ๐๔ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๐๙:๐๗
"ห้องแล็บเคลื่อนที่" ในรูปของขบวนยานพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนกว่า 7,200 คัน ช่วยผลักดันให้เกิดนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และการยอมรับในตลาดทั่วโลก

ยูพีเอสบรรลุเป้าหมายในการพิชิตระยะทางขนส่งพัสดุครบ 1 พันล้านไมล์ด้วยยานพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยได้ก่อนกำหนดถึงหนึ่งปี และนับเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ยูพีเอสได้ทำการศึกษาจากโครงการ "ห้องแล็บเคลื่อนที่" ความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนในระยะยาวของยูพีเอสกำลังปฏิรูปอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ผลักดันให้ตลาดพลังงานสะอาดเติบโต และเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขวิกฤตพลังงานก้าวหน้าไปไกล โดยรายละเอียดของความคืบหน้าในด้านความยั่งยืนของยูพีเอสมีปรากฏอยู่ในรายงานด้านความยั่งยืนของยูพีเอสฉบับที่ 14 ซึ่งออกเผยแพร่แล้วในขณะนี้

เดวิด แอ็บนีย์ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูพีเอส กล่าวว่า "เรามีเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการดำเนินโครงการ "ห้องแล็บเคลื่อนที่" ของเราให้เกิดผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถบรรลุเป้าหมายระยะทางขนส่งครบ 1 พันล้านไมล์ด้วยพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทน หรือเท่ากับระยะทางการเดินทางจากโลกถึงดวงจันทร์มากกว่า 4,000 รอบ แม้การบรรลุเป้าหมายครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ แต่ความมุ่งมั่นในการใช้พลังงานทดแทนของเราได้ริเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1930 แล้วเมื่อยูพีเอสเริ่มทดสอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า วันนี้ พนักงานขับรถของยูพีเอสกว่า 100,000 คนเดินทางส่งพัสดุเป็นระยะทางกว่า 3 พันล้านไมล์ต่อปี อนาคตของเราจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของปริมาณการค้าทั่วโลกควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม"

ยูพีเอสให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจังมากขึ้นในปี 2555 โดยตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุระยะทางขนส่งพัสดุโดยใช้พลังงานทดแทน 1 พันล้านไมล์ให้ได้ภายในสิ้นปี 2560 และสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ก่อนกำหนดถึงหนึ่งปี โดยปัจจุบัน ยูพีเอสสามารถใช้พลังงานทดแทน อย่างก๊าซธรรมชาติและไบโอดีเซล ในพาหนะขนส่งทางบกแทนน้ำมันดีเซลและเบนซินที่เคยใช้อยู่เป็นสัดส่วนสูงถึง 12%

บุนเทียม ตัน กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า "ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว จึงต้องเผชิญกับความท้าทายด้านระบบโลจิสติกส์และสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณความต้องการของสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญของระบบซัพพลายเชนของลูกค้า ยูพีเอสทำงานร่วมกับธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อบุกเบิกการใช้โซลูชั่นที่มีความยั่งยืนมากขึ้น พร้อมกับการเชิญชวนลูกค้าให้มีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการรับมือกับความท้าทายในด้านการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนให้มีประสิทธิภาพและความรับผิดชอบสูงสุด ในเมืองไทย ยูพีเอสก็มีการใช้พาหนะที่เติมก๊าซซีเอ็นจีจำนวน 10 คัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม"

ยูพีเอสให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยซึ่งต่างก็มีข้อได้เปรียบเฉพาะที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเส้นทางและภูมิศาสตร์ที่ตั้งที่ใช้งาน โดยมีการใช้ขบวนยานพาหนะกว่า 7,200 คันในห้องแล็บเคลื่อนที่เพื่อศึกษาว่าแนวทางใดที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้จักรยานธรรมดาและจักรยานไฟฟ้าในพื้นที่ชุมชนเมืองที่หนาแน่นอย่างลอนดอน และฮัมบูร์ก การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานไฮบริดในสหรัฐอเมริกา และการใช้รถยนต์พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียน และโพรเพน ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กล่าวได้ว่า ยูพีเอสนำนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนมาใช้ให้เกิดผลอย่างจริงจังทั่วโลก

"เมืองที่มีประชากรหนาแน่นหลายเมืองทั่วโลกเริ่มมีการกำหนดโซนไร้ไอเสียรถยนต์ขึ้นแล้ว และยูพีเอสก็พร้อมจะเป็นผู้บุกเบิกในการดำเนินการให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้โดยลงทุนในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและสร้างขบวนยานพาหนะเพื่อธุรกิจการขนส่งสำหรับโลกอนาคต" แอ็บนีย์กล่าว

นับตั้งแต่ปี 2552 จนถึงสิ้นปี 2559 ยูพีเอสจะใช้เงินลงทุนในด้านพลังงานทดแทน ยานพาหนะที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และสถานีพลังงานทดแทนทั่วโลก รวมทั้งสิ้นกว่า 750 ล้านดอลล่าร์ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับนโยบายส่งเสริมของรัฐบาล และการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจ จะช่วยให้การพัฒนาและการใช้พลังงานทดแทน ยานพาหนะ และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเกิดการขยายตัวทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ยูพีเอสยังมีผลการศึกษาด้านต่าง ๆ ซึ่งสามารถช่วยบริษัทต่าง ๆ ในการวางแผนลงทุนด้านความยั่งยืนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว อันประกอบด้วย

• การส่งเสริมนวัตกรรม – สิ่งที่เริ่มต้นขึ้นจาก "แนวทางธุรกิจ" ได้กลายเป็นระบบนิเวศของนวัตกรรมและความก้าวหน้าอันเป็นผลมาจากความร่วมมือกับคู่ค้า หน่วยงานผู้กำหนดนโยบาย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ยูพีเอสนำเอาความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์มารับมือกับความท้าทายด้านความยั่งยืนและอาศัยขนาดของขบวนยานพาหนะที่มีจำนวนมากถึงกว่า 100,000 คันมาช่วยผลักดันให้เกิดเทคโนโลยี ตลาด และการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งส่งเสริมให้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้

• การปรับใช้และปรับเปลี่ยนโซลูชั่น – โซลูชั่นที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่โซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ พลังงานและยานพาหนะที่เหมาะสมกับภูมิภาคหนึ่งหรือสภาพแวดล้อมแบบหนึ่งอาจไม่เหมาะที่จะนำไปใช้ในที่อื่น ๆ ปัจจัยต่าง ๆ อย่าง ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายรัฐบาล และเป้าหมายด้านคุณภาพอากาศของแต่ละท้องที่ ล้วนมีบทบาทในการกำหนดใช้ประเภทของยานพาหนะและพลังงานที่เหมาะสม

• บิ๊กดาต้า คือข้อมูลที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด – ยูพีเอสสามารถเห็นการวางแผนเส้นทางส่งพัสดุอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 30,000 เส้นทางต่อนาทีผ่านระบบ On-Road Integrated Optimization and Navigation (ORION) ซึ่งใช้เทคโนโลยีเทเลเมติกส์ร่วมกับอัลกอริทึมเพื่อลดระยะทางในการส่งพัสดุ การใช้แนวทางของบิ๊กดาต้าในขบวนพาหนะของห้องแล็บเคลื่อนที่ยูพีเอสคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่าย เมื่อมีการใช้ระบบ ORION อย่างเต็มรูปแบบ คาดว่ายูพีเอสจะสามารถเลี่ยงระยะทางของการส่งพัสดุได้ถึง 100 ล้านไมล์ต่อปี ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 100,000 เมตริกตันต่อปี และลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 10 ล้านแกลลอนต่อปี

• ผู้บริหารต้องมีจุดยืนต่อความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง จริงจัง - การลงทุนระยะยาวมักจะยังไม่ส่งผลตอบแทนในระยะสั้น ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถดาดเดาได้ ยูพีเอสต้องใช้เวลากว่า 10 ปีกว่าจะถึงจุดที่การสะสมไมล์ของขบวนยานพาหนะสามารถเพิ่มขึ้นในระดับเกือบเท่าทวีคูณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นในระยะยาวเท่านั้น

• สร้างพันธมิตร ส่งเสริม และรายงานความคืนหน้าอย่างสม่ำเสมอ – การเผยแพร่ผลความคืบหน้าและผลการศึกษากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้พัฒนาพลังงานทดแทนและเทคโนโลยี องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หน่วยงานราชการ และกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของห้องแล็บเคลื่อนที่ยูพีเอส ยูพีเอสมีการจัดทำรายงานด้านความยั่งยืนขึ้นทุกปี ซึ่งมีการรวมรวมข้อมูลเชิงสถิติที่สำคัญอย่าง การปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปริมาณการใช้พลังงาน ระยะทางของการขนส่งโดยใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัย และอื่น ๆ ขณะเดียวกัน ข้อมูลเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงผลในเชิงบวกที่เกิดขึ้นจากโครงการด้านความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมของยูพีเอส

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดริเริ่มเพื่อความยั่งยืนของยูพีเอส ค้นหาได้ที่ ups.com/sustainability สำหรับสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น บีโรล ภาพถ่าย วีดิโอ ฯลฯ ไปที่หน้าเว็บนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๓๗ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่สุดของแอร์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจ 24 ปีซ้อน
๐๙:๕๑ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เปิดประกวดราคางานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารว่าง บริเวณถนนราชดำเนินกลาง จำนวน 5 อาคาร อาคารหมายเลข 4, 13, 14, 17 และ
๐๙:๑๕ KJLล่องใต้ จัดสัมมนา รวมพลคนไฟฟ้า ON TOUR อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หวังเพิ่มเครือข่ายช่างไฟ KJL Network เป็น 10,000
๐๙:๐๖ PwC เผย 67% ซีอีโอไทยหวั่นธุรกิจของตนจะไปไม่รอดในทศวรรษหน้า หลังเจอแรงกดดัน จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและ
๐๙:๒๘ PROUD จัดสัมมนา เจาะลึกทำเลหัวหิน ศักยภาพ และโอกาสในการซื้ออสังหาฯ ย้ำดีมานด์คอนโดฯ ระดับลักชัวรียังดี
๐๘:๓๙ ซัมซุงชูวิสัยทัศน์หลัก Lead Future of AI Innovation ประกาศเป็นผู้นำใช้ AI สร้างนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งอนาคต AI CE ตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่ง AI-Product
๐๘:๐๔ PAW IT UP! เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ย้ำจุดยืน Pet Family Residences ผนึก 2 แบรนด์แกร่ง โมเดอร์นฟอร์ม และ NocNoc
๐๘:๕๑ OR คว้า 5 รางวัล ในงาน 2023-2024 Thailand's Most Admired Brand ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจมากที่สุด
๐๘:๐๐ มกอช. ลงพื้นที่ลำพูน หนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้ ใช้ระบบ QR Trace on Cloud และ
๐๘:๒๐ DEK FILM SPU สุดเจ๋ง! คว้ารางวัลชนะเลิศ เด็นโซ่ Tiktok Contest