นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ปัจจุบันการเติบโตของเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้วิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปมากโดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารซึ่งจากเดิมใช้การเขียนและส่งจดหมายถึงกัน ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นการส่งข้อความผ่านสมาร์ทโฟนหรืออีเมล์สื่อสารถึงกัน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายภายในเวลาไม่กี่วินาที รวมไปถึงการเขียนบอกเล่าความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็น ไดอารี่ออนไลน์ บล็อกส่วนตัว หรือการโพสต์ข้อความต่างๆ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังทดแทนการเขียนบอกเล่าความรู้ผ่านปลายปากกาด้วยมือ ทำให้การสื่อสารด้วยการเขียนจดหมายหรือโปสการ์ดถึงกันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นการเขียนบอกเล่าผ่านช่องทางใดก็ควรใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
เนื่องในโอกาสวันภาษาไทยแห่งชาติ 29 กรกฎาคมนี้ ไปรษณีย์ไทย ในฐานะหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมการเขียนจดหมายเพื่อเป็นสื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนในสังคม จึงมีแนวคิดที่จะกระตุ้นและปลูกจิตสำนึกของคนไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของการเขียน ผ่านการรณรงค์ให้คนไทยบอกเล่าความรู้สึกถึงกันผ่านจดหมายและโปสการ์ด เพราะไปรษณีย์ไทยยังคงเชื่อมั่นว่าการเขียนจดหมายหรือโปสการ์ดหากันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจและสามารถถ่ายทอดเรื่องราวความรู้สึกถึงผู้รับผ่านลายมือ นอกจากนี้อีกหนึ่งเสน่ห์ของจดหมายหรือโปสการ์ดคือ เมื่อเวลาผ่านไปและได้ย้อนกลับมาอ่านข้อความที่ถูกเขียนด้วยลายมือ จะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของผู้เขียนได้อย่างชัดเจน ฉะนั้นการสื่อสารผ่านการเขียนจึงควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับคนไทยตลอดไป และไปรษณีย์ไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เยาวชนรุ่นใหม่จะหันมาให้ความสำคัญกับการเขียนเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจจดหมายหรือโปสการ์ดของไปรษณีย์ไทย สามารถหาซื้อและส่งได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ หรือส่งได้ที่ตู้ไปรษณีย์ทุกแห่ง และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์www.thailandpost.co.th