อนาคตของชาติอยู่ในทุกคำที่ลูกทาน

จันทร์ ๐๘ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๐๙:๒๒
พฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายของลูกน้อยเป็นเรื่องที่พ่อแม่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงวัย 3-5 ปี เพราะเป็นช่วงเวลาในการวางรากฐานสุขภาพของลูกให้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง แต่ปัจจุบัน เด็กไทยส่วนใหญ่กำลังสั่งสมพฤติกรรมบั่นทอนสุขภาพ เช่น กินผักและผลไม้น้อย ดื่มน้ำหวานจัด และติดหน้าจอ ถึงเวลาแล้ว ที่เราทุกคนในสังคมจะมารวมพลัง เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนอนาคตของชาติให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

ล่าสุด โครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) ซึ่งเป็นการผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชน นำโดยบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กลุ่มรักลูก และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพัฒนาการเด็ก ได้รวมพลังกันจุดประกายพ่อแม่ และผู้มีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก เพื่อสร้างเยาวชนรุ่นใหม่วัย 3-12 ปีที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน ด้วยการปลูกฝัง 3 สุขนิสัยหลัก ได้แก่ การกินอาหารให้หลากหลายเพิ่มผักผลไม้ เลือกดื่มน้ำเปล่า และขยันขยับ เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น พร้อมสร้างสรรค์ "มื้ออาหารของฮีโร่" (Hero Meal) เครื่องมือช่วยกระตุ้นการปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมที่เหมาะสม

เคล็ดลับง่ายๆ ในการปลูกฝังให้เด็กมีสุขนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ จากคำแนะนำของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพัฒนาการเด็กจากโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" อาทิ นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล หัวหน้าภาควิชาโภชนาการและการกำหนดอาหารคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ เชฟดวงพร ทรงวิศวะ เจ้าของรางวัลเชฟหญิงที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2012 มีดังนี้

พ่อแม่คือตัวอย่างที่ดีที่สุด

พ่อแม่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่ดีให้ลูก วิธีการสอนลูกที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่การสอนผ่านคำพูด แต่พ่อแม่ต้องทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่างด้วย เช่น อยากให้ลูกกินผักผลไม้ ดื่มน้ำเปล่า ออกกำลังกาย พ่อแม่เองก็ต้องมีพฤติกรรมแบบนั้นด้วย ถ้าลูกเห็นว่าพ่อแม่ดูแลสุขภาพตนเองอย่างสม่ำเสมอ ก็จะมีแนวโน้มที่จะทำตามเช่นกัน

ทำให้ "การกินผัก" เป็นเรื่องปกติ

เวลาออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน คุณพ่อคุณแม่หลายท่าน มักสั่งเมนูพิเศษที่ปราศจากผักให้สำหรับลูกน้อยโดยเฉพาะ เพื่อตัดปัญหา ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางโต๊ะอาหาร แต่รู้หรือไม่ ว่าวิธีนี้จะยิ่งทำให้เด็กๆ รู้สึกแปลกแยกจากผักไปโดยปริยาย ฉะนั้น ในทุกมื้ออาหาร ควรสั่งเมนูที่มีผักและผลไม้หลากหลายชนิด เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกคุ้นเคย แม้ว่าเขาอาจจะไม่ยอมทานในช่วงแรกก็ตาม

ชวนลูกเข้าครัว

ให้เจ้าตัวน้อยคอยเป็นลูกมือในการเตรียมอาหาร ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับส่วนประกอบต่างๆ ในระหว่างการเตรียมอาหาร และอยากรับประทานผลงานของตัวเอง พ่อแม่อาจใช้ช่วงเวลานี้ในการสอนให้ลูกรู้จักคุณประโยชน์ของอาหารชนิดต่างๆ ด้วย

เพิ่มสีสันธรรมชาติให้ทุกมื้ออาหาร

พ่อแม่บางคนอาจคิดว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพต้องไม่อร่อยและหน้าตาไม่น่ารับประทาน แท้จริงแล้ว อาหารที่ดีต่อสุขภาพสามารถมีรสชาติที่อร่อยและดูดีได้ วิธีง่ายๆ เช่น การใช้ผักที่มีสีสันหลากหลาย เช่น พริกหวาน แครอท มะเขือเทศ มาประกอบอาหาร แม้กระทั่งการใช้น้ำจากดอกอัญชัญมาหุงข้าวให้มีสีสวย ก็สามารถทำให้เด็กๆ ตื่นตาตื่นใจกับหน้าตาและสีสันของอาหาร ชวนให้อยากรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้นด้วยตัวเอง

ตั้งชื่ออาหารให้น่าตื่นเต้น

ทำทุกมื้ออาหารให้น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ มากขึ้นด้วยการตั้งชื่อเมนูใหม่ เช่น เปลี่ยน "ปลาทอด" ที่อุดมด้วยโปรตีนเป็น "เจ้าสมุทรขึ้นบก" หรือแปลงโฉม "ราดหน้า" สูตรธรรมดา โดยปั่นฟักทอง แครอท ข้าวโพด หรือมะเขือเทศเข้าไปผสมในน้ำราด และตั้งชื่อใหม่เป็น "ราดหน้าพระอาทิตย์"

เปลี่ยนลูกให้แข็งแรงขึ้นใน 90 วัน

ตามหลักพฤติกรรมศาสตร์แล้ว หากเด็กสามารถทำพฤติกรรมใดๆ ต่อเนื่องได้เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน เขาก็มีแนวโน้มที่จะสามารถพัฒนาพฤติกรรมนั้นๆ ให้เป็นนิสัยที่ติดตัวได้ เพราะฉะนั้น การปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีต่อสุขภาพนี้เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยเวลาและความทุ่มเทของพ่อแม่ และควรทำอย่างต่อเนื่องแม้จะผ่าน 90 วันไปแล้ว

ติดตามแหล่งข้อมูลในการเลี้ยงลูกที่เข้าใจง่าย และปฎิบัตืได้จริง

ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ "รวมพลังเพื่อเด็กสุขภาพดี" (United for Healthier Kids) ได้ที่ Facebook.com/U4HKThailand หรือค้นหา United for Healthier Kids TH ผ่าน Facebook ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ อาทิ ข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการเด็กที่เข้าใจง่าย เมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพและทำได้ง่ายสำหรับเด็กวัย 3-5 ขวบ ที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กสาขาต่างๆ

ข้อมูลเกี่ยวกับเนสท์เล่ ประเทศไทย

เนสท์เล่ ประเทศไทย เริ่มดำเนินงานในประเทศไทยมาตั้งแต่พ.ศ. 2436 และได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยโภชนาการและรสชาติอร่อยให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยมาตลอดระยะเวลากว่า 120 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ช่วยให้ผู้บริโภคดูแลตนเองและครอบครัวได้อย่างดี ด้วยความตั้งใจ ความรู้ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งด้านโภชนาการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกด้านโภชนาการที่เหมาะกับตนเองและการใช้ชีวิตของตน เนสท์เล่ ในฐานะผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาอาหารและโภชนาการของโลกซึ่งมีการลงทุนและมีทรัพยากรมากมาย มีปณิธานที่จะสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความหลากหลายด้านรสชาติและประโยชน์เพื่อสุขภาพ ปัจจุบัน เนสท์เล่ ประเทศไทยผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกมากกว่า 40 แบรนด์เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยในทุกวัน

แนวคิด "Good Food, Good Life" ของเนสท์เล่ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคเพื่อให้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความสุข และสุขภาพดียิ่งขึ้น

ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนสท์เล่ ประเทศไทย ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/goodfoodgoodlifebyNestleThailand

YouTube: https://www.youtube.com/user/NestleThailand

Website:https://www.nestle.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4