แม้เทคโนโลยีเปลี่ยนไป แต่ความห่วงใยต่อ “แม่” ไม่เปลี่ยนแปลง

พฤหัส ๑๑ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๐๐
แม้เทคโนโลยีเปลี่ยนไป แต่ความห่วงใยต่อ "แม่" ไม่เปลี่ยนแปลงลูกจ้างชาวไอทีวอนขอวันลาผู้ชายช่วยเลี้ยงลูกหลังคลอด

เทคสตาร์ไทยแลนด์ดอทคอม เว็บไซต์หางานไอที เพื่อคนไอทีไทย 100% เผยผลสำรวจ "คนไอที คิดอย่างไรกับความเป็นแม่ในวันแม่แห่งชาติ" คนไอทีส่วนใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลกับคุณแม่ ยังเลือกที่จะไปหาและบอกรักแม่ในวันแม่แห่งชาติด้วยตัวเอง แทนการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีประเภทอื่นๆ ในขณะเดียวกันสวัสดิการจากบริษัทที่คนไอทีต้องการให้ลูกจ้างที่เป็นคุณแม่มากที่สุดคือ การสามารถยืนหยุ่นเวลาทำงานได้

นายจุลเดช มัชฉิมานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เทคสตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าเว็บไซต์เทคสตาร์ดอทคอมได้สำรวจความคิดเห็นของคนทำงานไอทีอายุ 21 ปีขึ้นไป จำนวน 289 คน ในหัวข้อ "คนไอที คิดอย่างไรกับความเป็นแม่ในวันแม่แห่งชาติ" แบ่งเป็นหญิง 45% เป็นชาย 54% และอื่นๆ อีก 1% ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มนี้ มีลักษณะการทำงาน เป็น พนักงานประจำ 78% ฟรีแลนซ์ 7% สัญญาจ้าง 6% รวมถึงว่างงาน 9% ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดทำผลสำรวจเฉพาะสำหรับคนไอทีในหัวข้อนี้

ผลสำรวจนี้แบ่งคำถามเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกถามถึงการบอกรักแม่ของตัวผู้ตอบแบบสอบถามเอง เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติปีนี้ และส่วนที่ 2 จะเป็นมุมมองของผู้ตอบแบบสอบถามคนไอทีที่มีต่อบทบาทและหน้าที่ของคำว่า "แม่" รวมถึงความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามต่อสวัสดิการที่ต้องการเรียกร้องจากบริษัท รวมถึงข้อกฎหมายที่จะเอื้อประโยชน์ต่อลูกจ้างที่เป็นแม่ในปัจจุบัน

ผลสำรวจในคำถามส่วนแรก พบประเด็นที่น่าสนใจ ถึงแม้กลุ่มคนไอทีจะเป็นกลุ่มคนที่น่าจะมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีมากที่สุด แต่การแสดงความรักต่อคุณแม่ 2 อันดับแรกยังคงเป็นพฤติกรรมแบบดั้งเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่า คุณเลือกที่จะบอกรักแม่ผ่านช่องทางไหนในปีนี้ (ผู้ตอบสามารถเลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) คนไอทีส่วนใหญ่เลือกที่จะไปหาท่านเลย คิดเป็น 66% รองลงมาคือ โทรไปหา 46% ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลจากแม่ โดยปัจจัยด้านระยะทางเป็นตัวแปร กล่าวคือ คนที่อยู่ห่างจากคุณแม่ (อยู่คนละจังหวัดหรือคนละประเทศ) เลือกที่จะโทรไปบอกรักแม่มากกว่าไปหาท่านเลย

นายจุลเดช กล่าวต่อไปว่า ในส่วนที่ 2 มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่หลายประเด็น ผู้ตอบแบบสอบถามคนไอทีผู้หญิงมากถึง 80% ไม่ต้องการลาออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูก เพราะยังต้องการมีรายได้ (76%) รองลงมาคือ รักงานที่ทำ (19%) และต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ (5%)

ประเด็นเกี่ยวกับการให้ผู้หญิงลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกพบว่า คนไอทีส่วนใหญ่คิดว่า ไม่ควรลาออกมาเลี้ยงลูกเต็มตัวและควรทำงานไปตามปกติ ประเด็นที่น่าสนใจคือ ความคิดเห็นรองลงมาที่แตกต่างกันระหว่างชายและหญิงกล่าวคือ ผู้ชายจำนวน 1 ใน 3 ต้องการให้ผู้หญิงเลิกทำงานในช่วงเวลาหนึ่งและกลับไปเมื่อพร้อม แต่ผู้หญิง 1 ใน 3 คิดว่า เปลี่ยนไปทำงานประเภทอื่นที่มีเวลามากขึ้นจะเป็นสิ่งที่เธอเลือกมากกว่า

นอกจากนี้ ในแบบสอบถามยังถามถึงประเด็นที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายแรงงานที่มีต่อลูกจ้างที่เป็นแม่ จากผลสำรวจพบว่า คนที่มีลูกแล้วคิดว่าการกฎหมายอนุญาตให้ลูกจ้างสามารถลาคลอดได้ 90 วันนั้นเพียงพอแล้ว แต่ในขณะที่ลูกจ้างที่ยังไม่มีลูกกลับคิดว่าไม่เพียงพอ และเมื่อถามถึงค่าชดเชยตามกฎหมาย 45 วัน ที่ได้จากการลาคลอด คนส่วนใหญ่คิดว่าไม่เหมาะสม อีกทั้งผู้ตอบสอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ต้องการให้มีการออกกฎหมายเพิ่มเติมให้นายจ้างอนุญาตให้ผู้ชายสามารถลางานเพื่อช่วยภรรยาหลังคลอดบุตรด้วย

ส่วนประเด็นความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับนายจ้าง ผลสำรวจพบว่า คนไอทีไม่ว่าจะมีบุตรแล้วหรือไม่ ต้องการเรียกร้องให้ลูกจ้างที่เป็นแม่ สามารถยืนหยุ่นเวลาเข้า – ออกงานได้เป็นอันดับหนึ่ง แต่มีความคิดเห็นที่แตกต่างในอันดับ 2 คือคนไม่มีลูกคิดว่าห้องปั๊มนมสำหรับลูกจ้างที่เป็นแม่สำคัญ แต่คนที่มีลูกแล้วกลับมองว่า การมีห้องสำหรับเด็กและพาลูกมาที่ทำงานได้สำคัญกว่า

ส่วนสุดท้ายของผลสำรวจถามถึง "เทคโนโลยีกับการเลี้ยงลูก" 2 อันดับแรกที่ผู้ตอบแบบสอบถามในทุกกลุ่มเลือกที่จะสอนลูกคือ ต้องให้ลูกใช้เทคโนโลยีเมื่อถึงวัยที่เหมาะสมและใช้ในช่วงเวลาที่กำหนด ในขณะเดียวกับก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก ไม่ใช้เทคโนโลยีมากจนเกินไปให้ลูกเห็น

"ประเด็นเรื่องวันลาสำหรับผู้ชายเพื่อช่วยภรรยาเลี้ยงลูกหลังคลอดเป็นสิ่งที่พูดถึงกันมานาน กฎหมายปัจจุบันให้สิทธิ์เฉพาะข้าราชการชายสามารถลาดูแลภรรยาคหลังลอดบุตรได้ 15 วัน แต่ในส่วนของพนักงานองค์เอกชนยังไม่มีกฎหมายรองรับตรงนี้ จากผลสำรวจพบว่า ผู้หญิง 88% เห็นด้วยกับการให้ผู้ชายสามารถมีวันลามาช่วยเลี้ยงลูก โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มีลูกแล้วเห็นด้วยถึง 97% ในขณะที่เสียงส่วนใหญ่จากฝ่ายชายเอง 85% เห็นความสำคัญและอยากได้รับสิทธิ์การลางานไปช่วยเลี้ยงลูกเช่นกัน" นายจุลเดช กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4