นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) อำนวยการติดตาม ซักซ้อมการเฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์อุทกภัย ครั้งที่ 1/2559 กล่าวว่า ระยะนี้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉันพลัน น้ำป่าไหล หลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุก เฉิน (อุทกภัย) จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน และน่าน โดยสถานการณ์น้ำเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน กอปภ.ก. จึงได้สั่งการให้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ง ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยแบ่งพื้นที่ในการดูแลผู้ประสบภัย พร้อมมอบหมายรองผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหัวหน้าส่วนราชการ ทำหน้าที่อำนวยการ สั่งการและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย สำรวจความต้องการช่วยเหลือของประชาชน รวมถึงจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคแจกจ่ายผู้ประสบภัย ตลอดจนระดมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ปฏิบัติการซ่อมแซมและฟื้นฟูสาธารณูปโภคให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว สำหรับจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะลุ่มน้ำยมให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือที่ไหลบ่าลงมาและอาจเอ่อล้นตลิ่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์และตรวจวัดระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ขุดลอกคู คลอง หนอง บึง เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและให้น้ำไหลผ่านได้โดยสะดวก รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำเตรียมพร้อมรับมือ และระวังอันตรายจากน้ำท่วม โดยขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นขึ้นบนที่สูง และจัดทำแนวคันกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วม
นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยอย่างเข้มข้น โดยระดมสรรพกำลัง วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที รวมถึงได้จัดเตรียมถุงยังชีพสำหรับแจกจ่ายผู้ประสบภัยไว้ประจำศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ศูนย์เขตฯ ทั่วประเทศ ตลอดจนประสานจังหวัดให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยยึดการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th