ด้วยการดำเนินธุรกิจมายาวนาเป็นปีที่ 25 โพลีคอมมีความภูมิใจที่จะขอแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มเหล่านี้ รวมถึงให้ความคิดเห็นในสิ่งที่เรามองเห็นจากสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันขององค์กรที่เกิดขึ้นในปี 2015 และในปีถัดๆไป
แนวโน้มที่ 1: สุดยอดแห่งการทำงานแบบเคลื่อนที่
ตามข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ ไอดีซี (IDC) ในปี 2015 มีคนถึง 1.3 พันล้านคนที่ใช้เทคโนโลยีแบบเคลื่อนที่ในการทำงานจากระยะไกล นอกจากนี้ไอดีซียังคาดการณ์ถึงอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะทำให้ธุรกิจไอทีเติบโตได้ถึงร้อยละ 40 ในปี 2016 ซึ่งความเป็นจริงแล้วนักอนาคตศาสตร์ระดับโลกอย่าง แจ็ค อูลด์ริช ได้คาดการณ์ไว้เช่นกันว่าสมาร์ทโฟนจะเติบโตขึ้นในอัตราส่วน 6: 1 เมื่อเทียบกับเครื่องพีซี หรือในอีกคสวามหมายหนึ่งนั่นคือ สถานทีทำงานในอนาคตแทบจะไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์รูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป ในบรรดาองค์กรต่างๆ ในปัจจุบัน ร้อยละ 87 ใช้กลยุทธ์การทำงานแบบเคลื่อนที่อย่างเป็นทางการภายในหน่วยงานขององค์กรอยู่แล้ว และจาก 7 ใน 10 ของหน่วยงานต่างดิ้นรนและเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเติบโตของอุปกรณ์พกพา และระบบใหม่ๆ
การทำงานจากระยะไกลกำลังเกิดเป็นมาตรฐาน อุปกรณ์พกพาเปลี่ยนรูปเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติครบครันทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการทำงานภายใต้นโยบาย BYOD (การนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ในการทำงาน) หรือใช้อุปกรณ์ขององค์กร สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเหล่านี้จะต้องติดตั้งเครื่องมือและเทคโนโลยีที่จำเป็นในการเพิ่มผลผลิตในการทำงานขณะเดินทาง การ์ทเนอร์ ชี้ให้เห็นว่า "สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์แบบสวมใส่เป็นส่วนหนึ่งของการประมวลผลที่มีการนำไปใช้งานกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นรวมถึงหน้าจอที่ถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันในที่ทำงาน และในพื้นที่สาธารณะ การออกแบบประสบการณ์ในการใช้งานของผู้ใช้จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง" สุดยอดแห่งการทำงานแบบเคลื่อนที่มีความสมบูรณ์แบบด้วยการใช้เสียง วิดีโอ และการแบ่งปันเนื้อหาได้จากทุกที่ ทุกวิธี และกับทุกคนจะกลายเป็นบรรทัดฐานอย่างรวดเร็ว
ที่มา:
นาธาน เอดดี้, อีวีค, หัวข้อ "Mobile Worker Population to Reach 1.3 Billion by 2015: IDC"
แจ็ค อูลด์ริช หัวข้อ "Revolutionizing the Future Workplace", 2014 ออราเคิล เว็บแคสต์ หัวข้อ "Oracle Mobile Update: Rethink Mobile, Beyond Mobile First"
แนวโน้มที่ 2: โลกาภิวัตน์ที่รวดเร็ว
ทุกวันนี้บริษัทต่างๆ ทำธุรกิจข้ามโซนเวลา พรมแดน และวัฒนธรรมมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน จากการวิจัยของฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช พบว่า "รายได้เฉพาะจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังค??งเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก เฉพาะในสหรัฐอเมริกา, ยุโรปตะวันตก และจีนเพียงอย่างเดียวปีนี้จะทำรายได้จากการขายออนไลน์ได้ถึงกว่า $800 พันล้านดอลลาร์" ในส่วนของธุรกิจที่ถูกผสมผสานเข้าด้วยกันผ่านการควบรวม และการเข้าซื้อกิจการ และนอกจากเพียงเพราะคู่ค้า ผู้ขาย และลูกค้าได้เปลี่ยนตัวเองให้ทำธุรกิจในระดับโลกมากขึ้น จึงทำให้การธุรกิจแค่เฉพาะในประเทศอย่างเดียวเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
โลกาภิวัตน์นี้ต้องอาศัยเครื่องมือในการการทำงานร่วมที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถขจัดปัญหาด้านระยะทาง และเชื่อมต่อฟังก์ชั่นทางธุรกิจบางอย่าง หรือทุกอย่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การเข้าเยี่ยมชมการประกันคุณภาพของโรงงานผลิตจากระยะไกลไปจนถึงการให้คำปรึกษาผ่านทางวิดีโอของผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาระหว่างประเทศ การสัมภาษณ์บุคคลทางไกล และการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานซึ่งเครื่องมือด้านการทำงานร่วมกันที่เรียบง่ายพร้อมด้วยเสียง วิดีโอ และการแบ่งปันเนื้อหาที่มีความคมชัดสูงจะทำให้ทีมงานที่อยู่กระจัดกระจายทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าที่เคย ปัญหาเรื่องระยะทางก็จะถูกลบออกจากสารระบบของการทำธุรกิจ
ที่มา: ฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช หัวข้อ "The eCommerce Globalization Playbook For 2015"
แนวโน้มที่ 3: การทำงานร่วมกันผ่านคลาวด์
ในขณะที่คลาวด์ติดอยู่ในรายชื่อแนวโน้มสำคัญติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี วันนี้ไอดีซีประมาณการว่าตลาดคลาวด์ที่กำลังดีวันดีคืนจะพุ่งขึ้นไปแตะ 118 พันล้านดอลลาร์ในปี 2015 การพูดคุยจะเริ่มเปลี่ยนไป การพูดคุยเกี่ยวกับคลาวด์ และโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์ส่วนมากจะอิงไปกับความต้องการทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องสงสัยว่าการทำงานร่วมกันผ่านวิดีโอแบบเรียลไทม์ที่ถูกส่งมอบจะเป็นวิดีโอที่อยู่ในรูปแบบของบริการ (VaaS) และเป็นหนึ่งในประเด็นที่มีการพูดถึง
VaaS ที่ปรับขนาดได้พร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อจากคลาวด์ และให้โอกาสในการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว เราจะเห็นเปิดโซลูชั่นที่อิงกับมาตรฐานและเป็นระบบแบบเปิดเชื่อมต่อกันกับโซลูชั่นที่มีกรรมสิทธิ์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้จะเริ่มเห็นว่าคลาวด์ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเฝ้าดูการทำงานของศูนย์ข้อมูลจากระยะไกล และทีมงานสามารถโต้ตอบกันได้ด้วยการทำงานร่วมกันผ่านทางวิดีโอ เสียง และเนื้อหา
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์หัวข้อ "IDC Predicts the 3rd Platform Will Bring Innovation, Growth, and Disruption Across All Industries in 2015" 2 ธันวาคม 2014
แนวโน้มที่ 4: อุปกรณ์อัจฉริยะ
ด้วยการหลั่งไหลเข้ามาของอุปกรณ์เพิ่มเติมที่ ทำให้การใช้งานทำได้ฉลาดมากขึ้น, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่น ๆ การใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความสามารถในการร่วมกันเอาไว้ในตัวและทำให้มีความชาญฉลาดที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ตามคำกล่าวของไอดีซี และอุปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมดพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนจะเชื่อมต่อและสื่อสารถึงกันและกันเพิ่มมากขึ้นในปี 2516
เพื่อส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างอุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคที่มีความฉลาดอื่นๆ ได้ ผู้ใช้งานกำลังมองหาวิธีฝังความอัจฉริยะลงไปในวิธีทำงานร่วมกัน และใส่ "แฮชแท็ก" เพื่อผูกทุกอย่างไว้ด้วยกัน โซลูชั่นด้านการจัดการสื่อขั้นสูงสามารถทำสิ่งนี้ได้โดยการ ดักจับ จัดการ และนำเสนอเนื้อหาด้วยการแปลงเสียงพูดเป็นตัวอักษรได้อย่างชาญฉลาด การติดแท็ก เมตะดาต้า และค้นหาตัวเลือกเพื่อให้ทุกคนที่มองหาวิธีทำงานร่วมกันรู้ได้ว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องอันไหนที่ไม่เป็นความจริง
ที่มา: แฟรงก์ เจนส์ ในหัวข้อ "IDC Predictions 2015-Accelerating Innovations and Growth on the 3rd Platform" เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2014
แนวโน้มที่ 5: ข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์
อีกรายการหนึ่งที่ติดอยู่ในรายชื่อของ "แนวโน้มสำคัญ" ในรอบหลายปีที่ผ่านมา นั่นคือ ข้อมูลขนาดใหญ่ จะไม่เพียงติดอยู่ในลำดับต้นๆ ของรายชื่ออย่างต่อเนื่องต่อไปหากมันจะนำมาใช้ในการค้นพบวิธีการปรับปรุงการทำงานร่วมกัน และผลผลิตในการทำงาน ในตอนท้าย ไอดีซี ได้คาดการณ์ว่าการวิเคราะห์สื่อที่มีการใช้ข้อมูลจำนวนมากจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าสามเท่าในปี 2015 เมื่อเร็วๆ นี้ข้อมูลจากวิดีโอและภาพส่วนใหญ่ได้กลายเป็นแหล่งทรัพยากรใหม่ของในการเรียนรู้เกี่ยวกับลูกค้าของพวกเขาเอง แพลตฟอร์มวิเคราะห์วิดีโอที่สามารถปรับให้มีขนาดใหญ่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างเข้ากับข้อมูลเชิงลึกแบบมีโครงสร้าง และนำเสนอระบบธุรกิจอัจฉริยะ
โซลูชั่นด้านการทำงานร่วมกันในปัจจุบันได้ส่งมอบการวิเคราะห์สื่อที่ใช้ข้อมูลในปริมาณมากโดยการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมและผู้เข้าร่วมการประชุมที่สามารถนำเข้าสู่ระบบการจัดการได้ พร้อมกับการดักจับ ติดตาม และเฝ้าดู เพื่อให้แน่ใจว่าระบบของบริษัทยังทำงานได้เป็นอย่างดี ข้อมูลนี้ทั้งหมดนี้ยังสามารถนำมาใช้ในการวัดประสิทธิภาพกับคู่แข่งที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันได้ด้วย
ที่มา: แฟรงก์ เจนส์ "IDC Predictions 2015-Accelerating Innovations and Growth on the 3rd Platform" 2 ธันวาคม 2014
แนวโน้มที่ 6: ระบบที่เต็มไปด้วยบริบท
เช่นเดียวกันกับข้อมูลขนาดใหญ่ แนวโน้มนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบอัจฉริยะแบบฝังตัวที่ถูกผสมผสานกับการวิเคราะห์เพื่อช่วยให้สามารถค้นพบเนื้อหาแบบเฉพาะเจาะจง มันเป็นหนึ่งในแนวโน้มด้านประสิทธิภาพที่สำคัญซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้วและจะเติบโตขึ้นในปี 2016
โดยทำงานร่วมกับ เมตะดาต้า และการติดแท็กเนื้อหาที่ชาญฉลาด การประชุมต่างๆ หรือประสบการณ์ในการทำงานร่วมกันจะถูกเก็บบันทึกไว้และเปิดใช้งานการแปลคำพูดเป็นข้อความ การสร้างชิ้นส่วนที่ใช้ในการค้นหาของเนื้อหา นี่ก็จะสามารถใช้ได้สำหรับทุกคนที่อาจใช้ประโยชน์จากการขุดเข้าไปในรายละเอียดที่อยู่ภายในงานนำเสนอ หรือการสนทนาแทนที่จะมาเสียเวลาพูดคุยกันหลายชั่วโมง
แนวโน้มที่ 7: การเขียนโปรแกรมที่คล่องตัว
เพื่อผลักดันให้มีการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น การเขียนโปรแกรมจะต้องมีความยืดหยุ่น วิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์จะต้องมีวิวัฒนาการพร้อมกับการใช้ทีมที่จัดการตัวเอง และมาจากหลายหลายสายการทำงาน และในขณะที่แนวโน้มในไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็คือเรื่องของมาตรฐานเปิด แต่โลกของเทคโนโลยีเริ่มที่จะตระหนักว่ามาตรฐานเปิดทั้งหมดไม่ได้ถูกสร้างขึ้นให้เท่ากัน แนวโน้มซึ่งโพลีคอมเข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกคือสิ่งที่เราเรียกว่า "Open, Standards"
หลายองค์กรใช้เทคโนโลยีที่อิงกับมาตรฐาน แต่มักจะมีกำแพงรอบๆ เทคโนโลยีเหล่านี้ที่ปิดกั้นพวกเขาไม่ให้ทำงานร่วมกันในวงกว้างได้มากนัก ด้วยความมุ่งมั่นในการใช้ Open, Standards นักพัฒนาสามารถใช้ชุดเครื่องมือแบบเปิด และ API แบบเปิด เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นด้านการทำงานร่วมกันและได้ประโยชน์ รวมถึงรวมเข้ากับโซลูชั่นดังกล่าวได้อย่ารวดเร็ว ตัวอย่างเช่นการเปิดการสนทนาผ่านทางวิดีโอหรือตารางการประชุมได้โดยตรงจาก salesforce.com
มุมมองของโพลีคอม
ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านพอร์ตโฟลิโอโซลูชั่นด้านเสียงและวิดีโอ โครงสร้างพื้นฐาน การแบ่งปันเนื้อหา และบริการต่างๆ โพลีคอม รู้สึกตื่นเต้นที่ถูกจับตามองอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีด้านการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงการทำงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาและเปลี่ยนธุรกิจของพวกเขา เสียง วิดีโอ และแบ่งปันเนื้อหาคือชิ้นส่วนสำคัญที่ผลักดันโมเมนตัมดังกล่าวนี้ และอยู่ในแกนหลักของโซลูชั่น Polycom RealPresence
จากพนักงานที่ทำงานได้อย่างราบรื่นไปจนถึงเวิร์กโฟลว์ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องมากขึ้น โพลีคอมมีการเตรียมการสำหรับอนาคตที่ช่วยให้ที่ทำงานร่วมกันแห่งอนาคตเริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้