สรุปยอดผู้เข้าชมมหกรรมวิทย์ฯ 2559 เกินล้านตามคาด กระทรวงวิทย์ฯ สุดปลื้มสร้างกระแสปรากฏการณ์คนรุ่นใหม่สนใจวิทยาศาสตร์

พุธ ๓๑ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๕๙
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุดปลื้ม จำนวนยอดรวมผู้เข้าชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2559 ทั้ง 11 วันที่ผ่านมา ทะลุเกิน 1.1 ล้านคนตามที่ได้คาดหมายเอาไว้ ชี้กระแสนวัตกรรมมาแรง นำเศรษฐกิจประเทศสู่ Thailand 4.0 เยาวชนรุ่นใหม่หันมาสนใจเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดอาชีพในฝัน สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ตอบสนองยุคดิจิตัล

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากการที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้จัด "งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2559" และ "งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี 2559" ขึ้น ระหว่างวันที่ 18-28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผลสรุปยอดรวมผู้เข้าชมงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ทั้ง 11 วัน ปรากฏว่ามีจำนวนมากถึง 1,102,094 คน โดยเป็นนักเรียนจำนวน 828,572 คน เป็นประชาชนทั่วไปจำนวน 273,522 คน ทั้งนี้ นับว่าการจัดงานประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายเพราะได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ที่มุ่งกระตุ้นความสนใจและสนับสนุนการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของเยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยตลอด 11 วันที่ผ่านมา ผู้เข้าชมงานให้ความสนใจกับนิทรรศการต่างๆ ของงาน และเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดแสดงโดยหน่วยงานของกระทรวงวิทย์ฯ ภาคเอกชน ภาครัฐบาลตลอดจนองค์กรต่างประเทศกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้งานประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก

ดร.พิเชฐฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่น่ายินดียิ่งไปกว่านั้นคือ มีเยาวชนและประชาชนจากทั่วประเทศกลับมาชมซ้ำอีก และหลายคน บอกว่ามาชมนิทรรศการแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นและสนุกสนานมาก นั่นเท่ากับว่าเราสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับสังคมไทยในการส่งเสริมให้คนไทยเริ่มสนใจเรียนรู้วิทยาศาสตร์กันมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเยาวชนให้ความสนใจในเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำมาจัดแสดงอย่างมาก สามารถนำไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาเหล่านั้นหันมาสนใจอาชีพในฝันด้าน STEM มากยิ่งขึ้น เพื่อต่อยอดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ตอบสนองยุคดิจิตัล อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ Thailand 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไปได้

สำหรับนิทรรศการยอดนิยมที่มีผู้คนสนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ ที่นำเสนอ พระอัจฉริยภาพและคุโณปการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผ่านพระราชกรณียกิจต่างๆ มากมายของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช "พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย" และ "พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย" ที่ภายในงานผู้เข้าชมยังได้มีโอกาสชื่นชมในเรือใบฝีพระหัตถ์ลำจริงถึง 2 ลำ "เรือซุปเปอร์มด AX7" และ "เรือเวคา 2" ที่ทรงออกแบบและต่อเรือใบพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง โดยในส่วนของเรือเวคา 2 พระองค์ทรงเคยนำเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ณ ประเทศไทย เมื่อเดือนธันวาคม 2510 และทรงเป็นผู้ชนะเลิศรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันคราวนั้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญเรือใบส่วนพระองค์ทั้ง 2 ลำมาจัดแสดงในครั้งนี้ด้วย / นิทรรศการยานยนต์แห่งอนาคตและการขนส่ง ผู้เข้าชมได้ตื่นตาตื่นใจไปกับยานยนต์สมัยใหม่ที่มีระบบการทำงานประสิทธิภาพสูง ทั้งความปลอดภัยและกำลังส่ง รถโฟมสะเทินน้ำสะเทินบก ยานยนต์สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการในอนาคต รถพลังงานแสงอาทิตย์คันแรกของคนไทย / นิทรรศการนวัตกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ที่มีหุ่นยนต์สีเขียวตัวใหญ่รูปร่างเท่ห์ยืนต้อนรับและดึงดูดสายตาผู้เข้าชมให้เข้ามาเยี่ยมชมถ่ายรูป และเด็กๆ ยังได้ชื่นชมไปกับความน่ารักของหุ่นยนต์นาโอะขวัญใจหนูๆ ที่เสมือนเป็นเพื่อนเล่นหรือสัตว์เลี้ยงตัวน้อยแสนรักของเราได้อีกด้วย / นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจไปกับ "Mini Space Inspirium" ใน "ห้องเสมือนไร้น้ำหนัก" ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. ที่ถูกออกแบบด้วยเทคนิคพิเศษในการหลอกสายตา ทำให้ทุกคนที่เข้าไปอยู่ข้างในห้องดูเหมือนอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักเหมือนตนเองกำลังอยู่ในห้วงอวกาศจริงๆ ซึ่งเป็นห้อง Simulator ที่เลียนแบบมาจากห้องฝึกการใช้ชีวิตในอวกาศของมนุษย์อวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ นาซ่า ทำให้เราได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในสภาพไร้น้ำหนัก ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากมายเช่นเดียวกัน / พร้อมกันนี้ ผู้เข้าชมยังได้ท่องระบบสุริยะไปกับ สดร. หรือสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สัมผัสประสบการณ์ดูดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์ของจริงที่นำมาให้เด็กๆ ได้ทดลองกันจริงๆ ในงาน / เพลิดเพลินกับการประกวดแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับของ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) / และสนุกสนานไปกับ "นวัตกรรมเนื้อเทียมตกแต่งบาดแผลสมมติ" ของโรงเรียนเสนารักษ์ กรมแพทย์ทหารบก กระทรวงกลาโหม ที่ให้เด็กๆ ได้ทดลองตกแต่งแผลบนใบหน้า ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบกันมากด้วยเช่นกัน

ดร.พิเชฐฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ จะประสบความสำเร็จไปไม่ได้หากขาดกำลังหลักสำคัญอย่างองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ อพวช. ที่เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานจัดงานนี้ขึ้นมา ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทีมงานทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจกันอย่างเต็มที่ รวมทั้ง ต้องขอขอบคุณหน่วยงานร่วมจัดทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ เป็นที่ประทับใจและชื่นชอบของคนทั่วทั้งประเทศ สมศักดิ์ศรีกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของประเทศและระดับภูมิภาคเอเชีย สำหรับใครที่พลาดชมในปีนี้ คงต้องอีกครั้งในปีหน้า ซึ่งจะมีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าปีนี้อีกอย่างแน่นอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?