ขจัดสิ่งสกปรกและช่วยลดปริมาณเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ติดอยู่ตามผิวหนังของสุนัขได้ แชมพูสุนัขมีมากมาย หลายกลิ่นหลายประเภทและยังมีราคาที่สูง การเลือกใช้แชมพูสำหรับสุนัข ต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวสุนัข สพ.ญ.ดร.ปภาภัสสร์ ศรีมหาคุณวงศ์ อาจารย์คณะเทคโนโลยีการเกษตร และทีมนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพสัตว์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) น.ส.ธิดารัตน์ มุงลั่ง , น.ส.ลลิตา ปัญญา และน.ส.วิภาวี เขียวพุ่มพวง จึงนำเสนอแชมพูสุนัขสูตรโฮมเมด มีขั้นตอนทำที่ง่ายและอ่อนโยนต่อผิวสุนัข
"บนผิวหนังของคนและสุนัข จะมีชั้นผิวนอกที่เรียกว่า เอซิด แมนเทิล ซึ่งโดยปกติแชมพูของคน จะไปชะล้างไขมันที่ปกคลุมผิวหนัง รวมทั้งกำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสให้หมดไป จากนั้นชั้นผิวหนังในชั้นนี้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ภายในเวลา 12 ชั่วโมง โดยมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ำกว่า 6.2 ซึ่งแชมพูของคนจะมีส่วนที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังคนและรักษาระดับความเป็นกรดเป็นด่างที่ 6.2 แต่ในสุนัข ระดับความเป็นกรดเป็นด่างจะผันแปรระหว่าง 5.5 – 7.5 ดังนั้นจึงไม่ควรนำแชมพูของคนมาใช้กับสุนัขโดยตรง เพราะความเป็นกรดเป็นด่างของผิวหนังคนและสุนัขมีค่าที่แตกต่างกัน" สพ.ญ.ดร.ปภาภัสสร์ อธิบาย
ทีมนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพสัตว์ เล่าว่า แชมพูสุนัขสูตรโฮมเมด ที่ผู้เลี้ยงสามารถผลิตขึ้นเอง มีส่วนผสมทั้งหมด 4 อย่าง ประกอบด้วย น้ำอุ่นหรือน้ำต้มสุก 1 ถ้วย หรือประมาณ 946 มิลลิลิตร น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล แชมพูสำหรับเด็กอ่อน และผงฟูอย่างละ 1 ถ้วย วิธีการทำเริ่มจาก เทผงฟูผสมกับน้ำอุ่นเพียงเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วค่อยๆ เติมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลลงไป แล้วคนต่อจนเข้ากันดี หลังจากนั้นเติมแชมพูสำหรับเด็กอ่อน และเติมน้ำอุ่นที่เหลือลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วจึงบรรจุลงขวดเพื่อให้พร้อมใช้ ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและเขย่าขวดก่อนใช้
สพ.ญ.ดร.ปภาภัสสร์ อธิบายถึงขั้นตอนการอาบน้ำสุนัขว่าควรเริ่มต้นจากใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเปล่าสะอาดชโลมตัวสุนัขก่อนอาบ เพื่อให้สุนัขรู้ตัวและพร้อมที่จะได้รับการอาบน้ำ เทแชมพูลงบนฝ่ามือ อาจจะผสมน้ำเล็กน้อยแล้วชโลมหรือฟอกให้ทั่วตัวสุนัข ระมัดระวังอย่าให้เข้าตา จมูกและปากของสุนัข หากสุนัขมีเห็บหมัดควรหมักไว้อย่างน้อยประมาณ 3-5 นาที แล้วค่อย ๆ ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนหมดฟอง และให้สุนัขสลัดน้ำจากขนจนหมาด แล้วจึงใช้ผ้าเช็ดหรืออาจเป่าให้แห้งด้วยลมเย็น ถ้าเป็นสุนัขที่มีลักษณะขนยาวควรแปรงขนด้วย และอธิบายต่อว่า "หากผู้เลี้ยงสัตว์ดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง อย่างเช่น การอาบน้ำ จะทำให้คุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงดีขึ้น และหากสุนัขมีปัญหาด้านผิวหนัง ควรปรึกษาสัตว์แพทย์ เพื่อตรวจและวินิจฉัยหาสาเหตุ เพื่อที่จะได้เลือกใช้แชมพูที่เหมาะสมกับสุนัขมากที่สุด และโดยปกติผู้เลี้ยงควรอาบน้ำให้สุนัขสัปดาห์ละหนึ่ง"