"การที่เลื่อนเปิดปิดตามอาเซียนนั้น เนื่องจากมีความคาดหวังที่จะมีการจัดกิจกรรมกับนักศึกษาในกลุ่มอาเซียน และเปิดรับนักศึกษาต่างชาติให้เข้ามาเรียนเพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงหลายประเทศในอาเซียนไม่ได้เปิด-ปิดในระยะเวลาเดียวกัน ประกอบกับการที่ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทยก็ไม่ได้มีขยับการเปิด-ปิดตาม อาเซียน ทำให้เกิดช่องว่างของเวลาหลังจากที่จบ ม.6แล้วหลายเดือน ดังนั้นหากกระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถปรับให้มีระบบใดระบบหนึ่งก็ควรกลับไป ใช้การเปิด-ปิดเช่นเดิม" อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าว
รศ.ดร.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า สำหรับการรับตรงร่วมกันระหว่างราชมงคลนั้น เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาจะยังคงมีการรับนักศึกษาร่วมกันเช่นเดิม แต่ในส่วนของการรับผ่านระบบแอดมิดชั่นนั้น ในปีการศึกษา 2560 มทร.ธัญบุรี จะไม่มีการรับนักศึกษาผ่านระบบนี้แล้ว เพราะมีความเหลื่อมล้ำเรื่องของเวลา แต่จะเป็นการขยายการรับระบบโควตามากขึ้นจากเดิม 20-30% เพิ่มเป็น 40% ที่เหลือรับแบบสอบตรง ส่วนความเหลื่อมล้ำของระยะเวลาอาจทำให้นักศึกษาที่สอบผ่านระบบแอดมิดชั่นสละ สิทธิ์เรียนใน มทร.ธัญบุรี หลังจากที่เปิดภาคเรียนไปแล้วนั้น เชื่อว่าถ้ามีจะเป็นส่วนน้อยมาก เพราะนักศึกษาที่รับตรงเข้ามามีความต้องการที่จะเรียนใน มทร.ซึ่งเป็นสายอาชีพ และหากนักศึกษาจะสละสิทธิ์ก็น่าจะเป็นนักศึกษาที่สอบผ่านระบบแอดมิชชั่น และสอบได้ในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น