CURATED Presents Autumn/Winter Collection 2016 BELIEVE

พฤหัส ๑๕ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๑:๓๓
เอก ทองประเสริฐ ดีไซเนอร์มากฝีมือเจ้าของแบรนด์ CURATED เปลี่ยนพื้นที่ภายในร้าน Broccoli Revolution สุขุมวิท 49 ให้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะจากผลงานของ 3 ศิลปินหญิง ภายใต้แนวคิดเกี่ยวกับ"ความเชื่อ" โดยใช้ชื่อนิทรรศการ Exhibition 13 'Believe?' พร้อมเปิดตัว คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Believe Autumn/Winter 2016 ซึ่งนับเป็นคอลเลคชั่นลำดับที่ 13 ของ แบรนด์ภายในงานยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและไลฟ์สไตล์อย่างการกินอาหารตาม ธาตุในรูปแบบของอาหาร Vegan มังสวิรัติขั้นสูง ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นโดยนำสีสันมาผูกโยงให้เข้ากับ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ นับเป็น Art Space แนวใหม่ที่ผสานศิลปะจากหลากแขนงบนแนวคิดเดียวกัน ได้อย่างลงตัว

"ตั้งใจไว้ตั้งแต่ 2 ปีก่อนว่า Curated จะไม่แสดงงานในรูปแบบของแฟชั่นโชว์เพราะเราคิดว่ายังไม่ สามารถสื่อไอเดียที่ต้องการบอกได้เท่าที่ตั้งใจ งานนิทรรศการครั้งนี้จึงอยากให้งานศิลปะด้านต่างๆ ได้ เชื่อมโยงเข้าหากัน ทั้งแฟชั่น งานไฟน์อาร์ต" เอกกล่าว

Curated เป็นแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับในสไตล์ Daywear ซึ่งโดดเด่นด้วยแนวคิดของการ เป็น Curator นำงานศิลปะที่ประทับใจมาปรับให้อยู่ในรูปแบบของแฟชั่น นับเป็นงานแห่งความคิดสร้าง สรรค์และการทดลองสิ่งใหม่ๆที่ส่งให้แบรนด์เกิดความแตกต่าง ในครั้งนี้เอกเลือกหยิบงานศิลปะ 2 ชิ้น ที่เขาประทับใจมาใช้เป็นแนวทางหลักในการออกแบบทั้งเสื้อผ้าของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย งานแรก คือผลงานชื่อ Where and when? Berck/Lourdes ของ Sophie Calle ศิลปินชาวฝรั่งเศสซึ่งมีแนวทาง การทำงาน ที่ไม่เหมือนใคร เธอสร้างสรรค์งานแสดงชิ้นนี้จากการให้นักพยากรณ์ทำนายโชคชะตา ของเธอผ่านการเปิดหนังสือแล้วบอกคำสำคัญ จากนั้นจึงใช้ชีวิตตามคำทำนายนั้นและเก็บเรื่อง ราวทั้งหมดตั้งแต่ตั๋วรถไฟ ภาพถ่ายและวิดีโอ มาจัดแสดงเป็นนิทรรศการ ส่วนผลงานศิลปะอีก ชิ้นคือ Decision (2015) ผลงานของ Carsten Holler ศิลปินเบลเยี่ยม ที่จัดแสดงผลงานโดยปล่อยให้ ผู้ชมเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเลือกชมอย่างไรผ่านทางเข้างานที่มีให้เลือกทั้ง A และ B เมื่อนำงานศิลปะ ทั้งสองชิ้นนี้มาประกอบกันจึงเกิดเป็นแนวคิดการออกแบบที่พูดถึงระบบการรับรู้ Perception ของคน แต่ละคนนำไปสู่เรื่องราวของ "ความเชื่อ" ที่กำหนดให้คนตัดสินใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในแต่ละขั้น ตอนของชีวิต

"เราสนใจเรื่องระบบความเชื่อของคนในสังคม ว่าทำไมคนหนึ่งคนถึงได้ตัดสินใจเลือกทำอย่างใด อย่างหนึ่งหรือการที่คนเราให้คนที่เราไม่รู้จัก ในที่นี่คือหมอดู มากำหนดชะตาชีวิตของตนเองคอลเลคชั่น นี้จึงต้องการสื่อถึงระบบความเชื่อที่เกิดขึ้นในคนหนึ่งคน โดยจะแบ่งวิธีคิดออกเป็น 3 ขั้นตอนตามหลัก วิทยาศาสตร์เรื่อง Decision process หรือ Cognitive Process คือ Information/Analysis/ Decision making ซึ่งอธิบายได้ว่าในแต่ละวันเมื่อเราได้รับข้อมูลหนึ่งมา ข้อมูลนั้นจะถูกวิเคราะห์ผ่านความทรงจำ ของเราเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะเลือกทำอย่างไรต่อ งานในคอลเลคชั่น Believe ก็ใช้ระบบความคิด เดียวกัน โดยเราใช้วิธีเดียวกับ Sophie Calle ด้วยการนำวันเดือนปีเกิดของแบรนด์ ไปให้หมอดูไพ่ทาโร่ต์ ดูดวง โดยสมมติว่าแบรนด์คือลูกผู้หญิงกับลูกผู้ชาย อายุประมาณ 6-7 ปี เท่ากับแบรนด์ เกิดวันเดียวกับที่ จดทะเบียนแบรนด์ หมอดูก็ทำนายว่า ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง เธอคนนี้จะเป็นโสด ไม่มีใครคบ และมีชีวิตที่โดด เดี่ยว แต่ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย เด็กคนนี้จะเกิดอุบัติเหตุบ่อย เจอความโชคร้ายตลอดเวลา จากนั้นเราก็เอา ข้อมูลตรงนี้มาเป็นแนวทางการออกแบบ ซึ่งเป็น Process ใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน"

ไอเดียจากคำทำนายถูกแบ่งออกเป็น 2 แนวทางใหญ่ ในส่วนของเสื้อผ้าผู้หญิง เอกนำแนวคิดว่า หากผู้หญิงคนหนึ่งถูกทำนายว่าจะต้องเป็นโสด เธอจะมีทางเลือกสองทาง อย่างแรกคือ ไปขอพรจากสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ จากจุดนี้เอกจึงนำ Element ที่ได้แรงบันดาลใจจากการผูกคำทำนายบนกิ่งไม้ในศาลเจ้าญี่ปุ่น มาเปลี่ยนเป็นดีเทลของเสื้อผ้าที่เน้นเรื่องการผูก ไม่ว่าจะเป็นการผูกปม หรือผูกโบ ในขณะเดียวกันจากคำ ทำนายของเด็กผู้ชาย หากมีคนทักว่ากำลังจะมีเคราะห์ ถ้าเลือกที่จะเชื่อ สิ่งที่ทำคือต้องไปหาพระมาคล้อง หรือหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องรางต่างๆมาปกป้องตนเอง ดีเทลของเสื้อผ้าผู้ชายจึงเน้นที่การนำรูปทรงของ เครื่องรางต่างๆของไทยมาใส่ไว้ในรูปแบบกราฟิก

แนวทางอีกด้านของการออกแบบที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เลือกที่จะไม่เชื่อในคำทำนาย เอกดึง ไอเดียจากความมั่นใจของผู้หญิงที่เลือกแต่งงานกับตนเอง ด้วยการหยิบดีเทลของผ้าลูกไม้ หรือรายละ เอียดต่างๆ ในชุดแต่งงานมาปรับในรูปแบบของ Daywear และนำแหวนแต่งงานมาปรับเปลี่ยนรูปแบบ การใส่ ส่วนผู้ชาย แม้จะเลือกไม่เชื่อคำทำนาย แต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง จากแนวคิดจึง กลายเป็นดีเทลของอุปกรณ์ป้องกันอันตรายต่างๆ รวมถึงเครื่องหมาย Fragile และสัญลักษณ์ที่แสดงเรื่อง ความปลอดภัย

นิทรรศการ BELIEVE จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 กันยายน-13 พฤศจิกายน 2559

THE ARTISTS

ผลงานศิลปะจาก 3 ศิลปินที่เอกเลือกมาจัดแสดง ล้วนให้แนวความคิดที่คล้ายคลึงและไปใน ทิศทางเดียวกับเรื่องของความเชื่อ ที่เขานำเสนอ

สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ กับผลงานชุด 'Capturing the intangible'

หยิบผลงานส่วนหนึ่งจากการแสดงเดี่ยวที่หอศิลป์จุฬาฯ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนิทรรศการเพื่อ สื่อถึงแก่นความเชื่อผ่านงานโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมอย่างรูปทรงของเจดีย์ "สนใจเรื่องตัวตนของ ความเชื่อที่ฝังอยู่ในชีวิตประจำวัน ผ่านรูปเคารพ และสถาปัตยกรรมที่เรากราบไหว้ จนเกิดจากคำถามเช่น กันว่าอะไรกันแน่ที่เรากราบไหว้กันอยู่ จึงเริ่มนำเสนอผ่าน Negative Space ของเจดีย์ ด้วยวัตถุที่จับต้อง ได้เช่น หนังสือธรรมะ หนังสือวิทยาศาสตร์ แล้วพูดถึงเรื่องการจับต้องความรู้ที่มีแนวความคิดเหมือนกัน คือถ้ารู้เพียงแต่ทฤษฎีแต่ไม่ปฏิบัติจริงจะเข้าใจได้อย่างไร เป็นการตั้งคำถามระหว่างเปลือกข้างนอกกับ แก่นข้างในว่าจริงๆสิ่งที่เห็นคือสิ่งที่เป็นหรือเปล่า" สนิทัศน์กล่าว

"เรามองเห็นการอ้างอิงระหว่าง Shape และ Form ของเจดีย์ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามการรับรู้ของ คน ด้วยรูปทรงที่ทำให้รู้สึกต้องเคารพ โดยศิลปินใช้ Negative Space ของเจดีย์เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ซึ่งลิ้งค์กับคอลเลคชั่นของผู้ชายที่นำพระเครื่องมาเป็นสัญลักษณ์ และมาทำรูปทรงใหม่"

วทันยา ศิริวรรณ กับผลงานชุด Object (มงคล)

งานศิลปะที่นำความเชื่อทางศาสนามา มาตีความผ่านมุมมองของตัวศิลปิน โดยนำงานปักผ้ามา ใช้ถ่ายทอดแทนการเชื่อมโยงของชีวิตและศาสนา ผลงานที่นำมาจัดแสดงคือศาลพระภูมิ ซึ่งทำขึ้นมาจาก ผ้าปักทั้งหมด "แรงบันดาลใจของงานเกิดจากการตั้งคำถามเรื่องความเชื่อในศาสนาพุทธ ที่ปนกับการทำ พิธีอย่างพราหมณ์ การนับถือผีในสังคมไทย โดยเลือกแสดงผ่านผ้าซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงใช้แสดงออกเรื่อง ศาสนา เช่นผ้าทอต่างๆ บวกกับส่วนตัวชอบงานคราฟท์จึงนำมาแสดงออกในรูปแบบของงานศิลปะ เช่น งานศาลพระภูมิที่ทำขึ้นจากผ้า บางคนมองว่าเป็นการลบหลู่หรือไม่ แต่เราอยากนำเสนอว่า เป็นคนเราเอง ที่มองศาลพระภูมิในแง่ของวัตถุ แต่จริงๆแล้วสิ่งที่เราเชื่อคือในสิ่งที่อยู่ในนั้นมากกว่าไม่ใช่หรือ" วทันยา กล่าว

"เรามองเห็นความเชื่อมโยงของการนำงานคราฟท์มาแทนที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปกติต้องเป็นปูน/ ดิน ปลุกเสก หรือเป็นโลหะมีค่า จึงลิงค์เข้ากับคอลเลคชั่นในหมวดของผู้หญิงที่มีดีเทลเป็นการผูก พันเชือก ที่มองแล้วจะเหมือนตอนที่ คนที่ตามหาความรักมัก ไปบนบานศาลเกล่า กับสารเจ้าต่างๆ หรือแม้กระทั่ง การเอากุญแจไปล๊อค ตามสถานที่ต่างๆ" เอกกล่าว

กวิตา วัฒนชยังกูร กับผลงาน (Tools)

งาน Video Art ที่ศิลปินใช้ตนเองแทนสิ่งของเครื่องใช้ในบ้าน เช่นไม้กวาด ที่ไสน้ำแข็ง ราวตากผ้า หรือแม้แต่ตาชั่ง เพื่อบอกเล่าถึงการทำงานบ้านซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกทำอย่างต่อเนื่อง ไม่มีจุดจบจนจนเกิดความ รู้สึกว่ากลายเป็นสิ่งของเหล่านั้น เปรียบเหมือนการทำลายอัตลักษณ์และความเป็นตัวตนของบุคคลนั้นๆให้หายไป "งานของแพรวเป็นงานที่พูดถึงผู้หญิงไทยในยุคปัจจุบัน โดยใช้ตัวเองไปแทนวัสดุต่างๆในบ้าน ซึ่ง การที่เราสร้างผลงานโดยใช้ตนเองเป็นส่วนหลัก ต้องใช้วิธีสะกดจิตตัวเองให้รู้สึกว่าเราเป็นของชิ้นนั้นจริงๆ ภาษาธรรมะคือไม่มีตัวกูของกู เป็นการเอาตัวเองออกไป เพื่อที่เราจะได้รู้สึกว่าถ้าเราสูญเสียความรู้สึก ความเป็นตัวตนนั้นไปจะเป็นอย่างไร เป็นเหมือนการตั้งคำถามและได้คำตอบจากการทดลองที่ทำนอก จากนั้นยังสื่อถึงเรื่องความเท่าเทียม เรื่องของเฟมินิสม์ที่แฝงอยู่เรื่อง สิทธิของผู้หญิง" กวิตากล่าว

"สิ่งที่ผลงานนี้สื่อออกมาจะลิ้งค์กับความเชื่อในทางเลือกของการ 'ไม่เชื่อ' ในคำทำนาย คอลเลคชั่น ที่ว่าทำไมผู้หญิงต้องแต่งงาน หรือมีความคาดหวังว่าตนเองต้องแต่งงาน จนเกิดเป็นวลีว่า 'ไม่กลัวขึ้นคานเหรอ' ซึ่งเป็นความเชื่อที่เกิดจากบริบทในสังคม ว่าผู้หญิงควรดำเนินชีวิตตามขั้นตอน หนึ่ง สอง สาม สี่ ที่สังคมได้คาดหวัง และตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้มากมาย " เอกกล่าว

MENU 4 ELEMENTS

นอกจากแนวคิดของ "ความเชื่อ" ที่แสดงออกผ่านงานศิลปะและแฟชั่น ในแง่ของไลฟ์สไตล์ ความเชื่อก็ยังสามารถเข้าไปมีบทบาทในการสร้างสรรค์ได้ ดังเช่นเมนูอาหารทั้ง 4 เซ็ตที่ครีเอทขึ้นผ่าน โจทย์เรื่องความเชื่อในเรื่องธาตุประจำเดือนเกิด แต่ละเซ็ตเมนูประกอบด้วย ซุป อาหารเรียกน้ำย่อย เมนคอร์ส ขนมหวาน และเครื่องดื่ม จัดหมวดหมู่สีสันให้บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ที่แสดงธาตุต่างๆ สีเหลือง-น้ำตาล แทนธาตุดิน, สีฟ้า แทนธาตุน้ำ, สีเขียว แทนธาตุลม และสีแดงแทนธาตุไฟ

"จุดเด่นของร้าน Broccoli Revolution อยู่ที่อาหารทุกเมนูเป็นอาหารประเภท Vegan หรือ มังสวิรัติขั้นสูงสุด ไม่มีส่วนประกอบที่มาจากสัตว์เลย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นเป็นไข่ นม เนย น้ำปลา หรือแม้แต่น้ำผึ้ง เพราะฉะนั้นจึงดีต่อสุขภาพ ข้อสำคัญยัง สร้างสรรค์ในสไตล์ East Meets West มีอาหาร ให้เลือกหลากหลายแบบนานาชาติทั้งไทย พม่า เวียดนาม ญี่ปุ่น โมร็อคโก ฯลฯ " คุณหนู- ณยา เอียร์ลิกซ์ อาดัม เจ้าของร้าน Broccoli Revolution กล่าว

สำหรับเซ็ตเมนูอาหารตามธาตุเดือนเกิด บางเมนูมีจำหน่ายที่ร้านอยู่แล้ว แต่หากต้องการสั่งทั้ง เซ็ตต้องสั่งจองล่วงหน้า 1-2 วัน

ธาตุดิน Earth

ซุป Yellow Corn Chowder เมนูเรียกน้ำย่อย Tapenade & Onion Confiture with Bread stick อาหารว่างของฝรั่งเศสที่ใช้มะกอกดำปั่นกับเครื่องเทศ และแยมหอมหัวใหญ่ กินคู่กับขนมปังกรอบ เมนคอร์ส Zaru Soba (บะหมี่เย็น) ที่ใช้เส้นบุกแทนเส้นโซบะ ขนมหวาน ไอศกรีมงาดำออร์แกนิก เครื่องดื่ม No.12 (ฟักทอง เซลารี่และมะม่วง)

ธาตุน้ำ Water

ซุป Blue Cashew Cauliflower กะหล่ำดอกและมะม่วงหิมพานต์ผสมสีจากอัญชัญ เมนูเรียก น้ำย่อย Blue Hummus with Pita Bread ถั่วลูกไก่บดจากเลบานอนกินกับแป้งพิต้า เมนคอร์ส Daikon Blue Pasta with Miso Sauce พาสต้าที่ทำจากหัวไชเท้าฝาน เสิร์ฟคู่กับซอสมิโซะ ขนม กล้วยบวดชี เครื่องดื่ม อัญชัญไอซ์ที

ธาตุลม Wind

ซุปบล็อกโคลี เมนูเรียกน้ำย่อย เซเลอรี่สดดิปกับซาวเออร์ครีม เมนคอร์ส Edamame Spaghetti with Green Pea and Avocado สปาเก็ตตี้ซอสถั่วแระญี่ปุ่น กับถั่วลันเตาและอโวคาโด ขนม Frozen Mint Pannacotta with Kiwi Juice เครื่องดื่ม No.7 (บล็อกโคลี ส้ม แอปเปิ้ลเขียว)

ธาตุไฟ Fire

ซุป Moroccan Lentil เมนูเรียกน้ำย่อย Pumpkin Hummus with Carrot Stick แครอทดิป กับฟักทองบดกับเครื่องเทศ เมนคอร์ส Stuffed Tomato with cashew-cheese couscous ขนม สตรอว์เบอร์รี่ ซอร์เบท์ เครื่องดื่ม No.9 (บีทรูท แครอท แอปเปิ้ลเขียว มะนาว)

THE DESIGNER

เอก ทองประเสริฐ คือดีไซเนอร์มากฝีมือผู้ได้รับรางวัลการันตีระดับสากล ทั้งรางวัลชนะเลิศ Fashion Collection of the year, International Talent Support ประเทศอิตาลี และ Fashion Weekend Brussels ประเทศเบลเยี่ยม หลังจากเรียนจบปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เขาขอเลือกเดินตามฝันอีกครั้งด้วยการเข้าเรียนปริญญาตรีและปริญญาโท ที่ Fashion Department of the Royal Academy of Fine Arts Antwerp ประเทศเบลเยี่ยม สถาบันศิลปะที่มี อายุกว่า 400 ปี ซึ่งสร้างสรรค์ศิษย์เก่าผู้เป็นศิลปินและดีไซเนอร์ระดับโลกมาแล้วมากมาย เช่น Peter Paul Rubens, Anthony van Dyck , Dries Van Noten, Ann Demeulemeester หรือแม้แต่ Martin Margiela

นอกเหนือจาก Curated เอกยังเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ EK Thongprasert ในปี 2008 ซึ่งผลงานที่ สร้างชื่อให้เขาเป็นอย่างมากคือสร้อยเพชรรูปทรงคลาสสิกที่นำมาทวิสต์ด้วยวัสดุอันคาดไม่ถึงอย่างซิลิโคนสีสันจัดจ้าน โดยภาพรวม EK Thongprasert คือตัวแทนของความลักชัวรี่ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะนำเสนอ ผ่านค็อกเทลเดรส อีฟนิ่งเดรสหรือเครื่องประดับ

ปัจจุบันผลงานของแบรนด์ Curated และ EK Thongprasert มีวางจำหน่ายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง พบกับคอลเล็กชั่นใหม่ของ Curated ได้ที่ THAITHAI ZONE Central ChidLom

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/ CURATEDbyEK

Head Office

Curated Co., Ltd.

5/103 Tessabaansongkro Road

Ladyao, Chatujak, Bangkok 10900

Thailand

T: +66 2 196 2113

[email protected]

[email protected]

www.curated.co.th

Contact Line ID : curatedofficial

Call Center : +66 96 898 8020

หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ ผู้แทนประชาสัมพันธ์ บริษัท เอฟวายไอ จำกัด

กุลยา กาศสกุล (ยิ้ม) ๐๘๙ ๗๗๗ ๐๕๔๑

มัลลิกา ตันติเวชกุล (มะลิ) ๐๘๓ ๑๒๒ ๑๒๒๒

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๐ DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๖:๕๘ Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๖:๐๓ Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๖:๓๕ โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๖:๓๑ 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๖:๒๗ TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๖:๔๗ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๖:๐๐ โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๖:๒๙ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๖:๒๘ คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital