กสอ. ขานรับนโยบาย 4.0 ชู 5 ช่องทางสื่อออนไลน์ ดัน SMEs ไทยสู่ซัพพลายเชนโลก

พฤหัส ๑๕ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๐:๔๘
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าเตรียมความพร้อมธุรกิจ SMEs ให้ก้าวทันตลาดโลก สนองนโยบาย 4.0 ชู 5 ช่องทางออนไลน์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ได้แก่ การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่น การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น ตลอดจน การส่งเสริมการตลาดสื่อสังคมออนไลน์ และการเชื่อมโยงเครือข่ายอีคอมเมิร์ซ ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าประเทศไทย มีธุรกิจ SMEs กว่า 2.79 ล้านราย แต่มีเพียง 1 ล้านรายเท่านั้นที่เข้าถึงสื่อออนไลน์

ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อเป็นการขานรับนโยบาย 4.0 ของประเทศไทย ที่มีการส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs ขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจ SMEs ดังนั้น กสอ. จึงมีการผลักดันให้นำ 5 ช่องทางออนไลน์มาใช้ในการเสริมสร้างและพัฒนาธุรกิจ SMEs ได้แก่

· การพัฒนาเว็บไซต์ โดย กสอ. มีการพัฒนาเว็บไซต์ http://bsc.dip.go.th เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ กรณีศึกษา SMEs ที่ประสบความสำเร็จ ตลอดจนคลังความรู้ในการ ประกอบธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปพัฒนาและต่อยอดได้

· การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่น ทาง กสอ. ได้พัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นเพื่อเป็นช่องทางให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านช่องทางออนไลน์ บน http://e-consult.dip.go.th ในรูปแบบ Web Conference ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น การเริ่มต้นธุรกิจ ปัญหาการดำเนินธุรกิจ เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาขอรับบริการ ผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยเปิดให้คำปรึกษาแนะนำทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 16.00 น. ผ่านระบบออนไลน์

· การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น (Mobile Application) กสอ. ได้มีการพัฒนา 2 โมบายแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการพัฒนาธุรกิจ SMEs อย่างต่อเนื่อง อาทิ แอพพลิเคชั่น DIP Thailand เป็นแอพพลิเคชั่นหลักของ กสอ. โดยพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม การประชาสัมพันธ์โครงการของ กสอ. รวมไปถึงการสมัครเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ที่ทาง กสอ.ได้จัดขึ้น โดยทางผู้ประกอบการ SMEs สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางโมบายแอพพลิเคชั่น (Mobile Application) ได้ นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่น iP Industrial Partner ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ทาง กสอ.ได้รวบรวมข้อมูล ของที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาให้บริการแก่ผู้ขอรับคำปรึกษาแนะนำ โดยผู้ที่มาขอรับบริการสามารถที่จะฝากข้อความได้ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในด้านข้อมูลอุตสาหกรรม โอกาสการลงทุน และโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งทั้ง 2 แอพพลิเคชั่น สามารถดาวน์โหลด ได้ที่ app store และ play store

· การเชื่อมโยงเครือข่ายอีคอมเมิร์ซ กสอ.ได้ร่วมกับ Alibaba และ Ready Planet ในการขยายช่องทางการส่งออก บนเว็บไซต์ http://alibaba-dip.readyplanet.com ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางการค้าส่งออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก และยังเป็นตัวกลางในการให้ความรู้แก่ SMEs อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดโครงการอบรมให้ความรู้ ด้านการส่งออก การขนส่งสินค้า ด้านภาษี และเพิ่มช่องทางในการขายสินค้าออกไปต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กสอ.ยังได้จับมือกับ HKTDC เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและฮ่องกง รวมไปถึงทางฮ่องกงยังได้เผยแพร่รายชื่อผู้ประกอบการและสินค้าไทยในเครือข่ายของ กสอ.ไปเผยแพร่ ใน "Thailand Featured Suppliers Zone" บนเว็บไซต์www.hktdc.com เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและอุตสาหกรรมไทยสู่กลุ่มผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน

· การส่งเสริมการตลาดสื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค (Facebook) กสอ. ได้มีการจัดฝึกอบรมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ โดยมีการส่งเสริมการทำการตลาดผ่านเฟสบุ๊ค (Face book) ด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ อาทิ การสร้าง Facebook Page ให้เปรียบเสมือนหน้าร้านธุรกิจ โปรโมทร่วมกับเว็บไซต์ การสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และการนำข้อมูลเผยแพร่ตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการโปรโมทธุรกิจ อีกทั้งยังสามารถสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ตลอดจนการสร้างเนื้อหาให้ความรู้ ผ่าน infographic เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สื่อออนไลน์มีส่วนช่วยในการเชื่อมโยงข้อมูล การสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงสามารถยกระดับ การบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การลดต้นทุนในขั้นตอนการผลิต และการเรียนรู้ ให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งในอนาคตคาดว่าจะมีบทบาทอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ ในด้านต่าง ๆ อย่างมาก ซึ่ง กสอ. ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการใช้สื่อออนไลน์มาส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมของตนเอง โดยปัจจุบันพบว่าไทยมีผู้ประกอบการ SMEs เพียง 1 ล้านราย ที่ใช้สื่อออนไลน์ในการดำเนินธุรกิจ SMEs ดร.พสุ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-17 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4