ปภ. รายงานเกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 7 จังหวัด พร้อมเตือน 27 จังหวัดรับมือภาวะฝนตกหนักถึงหนักมากในระยะนี้

พุธ ๒๑ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๐:๒๗
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พะเยา แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก ตาก หนองบัวลำภู และระยอง รวม 14 อำเภอ 52 ตำบล พร้อมประสานแจ้งเตือน 27 จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 7 จังหวัด รวม 14 อำเภอ 52 ตำบล แยกเป็น สุโขทัย น้ำจากแม่น้ำยมล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง อำเภอกงไกรลาศ และอำเภอบ้านด่านลานหอย รวม 21 ตำบล 141 หมู่บ้าน 26 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,618 หลังคาเรือน ถนน 25 สาย ตลิ่ง 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 40,703 ไร่ ปัจจุบันอำเภอเมืองสุโขทัย เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนอำเภออื่นๆ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร พะเยา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอดอกคำใต้ และอำเภอภูกามยาว รวม 15 ตำบล ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอปาย รวม 8 ตำบล ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว พิษณุโลก น้ำจากแม่น้ำยมไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางระกำ ประชาชนได้รับผลกระทบ 500 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 2,800 ไร่ บ่อปลา 4 บ่อ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร ตาก น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอท่าสองยาง บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 1 หลังคาเรือน ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หนองบัวลำภู น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อำเภอศรีบุญเรืองประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 100 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ระยอง น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองระยอง ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ร่องมรสุมมีกำลังแรงขึ้นและได้เคลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 27 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคกลาง 14 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง และพังงา รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณที่มีปริมาณฝนสะสมอยู่แล้ว รวมถึงจัดเตรียมสรรพกำลัง เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยง อาทิ คอสะพาน เส้นทางน้ำไหลผ่าน ที่ลาดเชิงเขา เพื่อให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ แก้ไขปัญหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ตลอดจนกำหนดพื้นที่รองรับน้ำและเก็บกักน้ำ และวางแผนพร่องน้ำ ผันน้ำ และระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัยซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ โดยบูรณาการแผนการระบายน้ำในเชิงลุ่มน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัย กรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4