มกอช.เดินหน้าโปรโมทสินค้า Q ใน 21 ตลาดทั่ว กทม.-ปริมณฑล สร้างการยอมรับคุณภาพมาตรฐาน-ความปลอดภัย เสริมความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้รู้จักสินค้า Q เพิ่มขึ้น

พุธ ๒๑ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๒:๑๓
นายพิศาล พงศาพิชณ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้ มกอช. บูรณาการร่วมกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ขับเคลื่อนโครงการรับรองแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพภายใต้เครื่องหมาย Q อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีตลาดสดและแผง/ร้านค้าได้รับการรับรองตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการตรวจรับรองสถานที่จำหน่ายสินค้า Q จำนวน 457 แผง/ร้านค้า ใน 21ตลาด ได้แก่ ตลาดอ่อนนุช (เหนือ) ตลาดอ่อนนุช (ใต้) ตลาดเอี่ยมสมบัติ ตลาด

นครไทย ตลาดทรัพย์จันผัน (ลาดพร้าวสะพาน2) ตลาดกลางแฮปปี้แลนด์ ตลาดสัมมากร ตลาดสดมีนบุรี1 ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี ตลาดเงินวิจิตร ตลาดวงเวียนใหญ่ ตลาดบางขุนศรี ตลาด อ.ต.ก. ตลาดพงษ์เพชร ตลาดสามย่าน ตลาดไท ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดวัฒนานันท์ ตลาดอมรพันธ์ ตลาดใหม่ทุ่งครุ และตลาดศิริชัย ซึ่งมีอายุการรับรอง 3 ปี

จากการดำเนินโครงการดังกล่าว พบว่า เจ้าของแผง/ร้านค้า ผู้จำหน่ายสินค้าในตลาดสดต่างๆ และผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักสินค้า Q แพร่หลายมากนัก ทำให้มีสินค้า Q วางจำหน่ายในตลาดสดน้อยมาก มกอช.จึงได้มีแผนเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคและผู้จำหน่ายในตลาดสดมีความรู้ความเข้าใจในเครื่องหมายรับรอง Q และรู้จักสินค้า Q มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้เจ้าของแผง/ร้านค้าจัดหาสินค้า Q มาจำหน่ายเพิ่มขึ้น ช่วยสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและหาซื้อสินค้า Q ได้อย่างสะดวก ส่งผลให้สินค้า Q เป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

"แหล่งผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพมาตรฐานภายใต้เครื่องหมาย Q ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค นอกจากนั้น สินค้า Q ยังมีความปลอดภัยสูงกว่าสินค้าทั่วไป ทำให้สุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยดีขึ้น ดังนั้น การเลือกซื้อสินค้าเกษตรและอาหารครั้งถัดไป ทั้งพืชผัก ผลไม้ สินค้าปศุสัตว์ และสินค้าสัตว์น้ำ ควรเลือกสินค้าที่มีตรารับรอง Qสีเขียว ซึ่งผู้บริโภคมั่นใจได้เลยว่า สินค้า Q มีคุณภาพและมีความปลอดภัยแน่นอน" รองเลขาธิการ มกอช. กล่าว

นายพิศาลกล่าวด้วยว่า อนาคตหากสินค้า Q เป็นที่ยอมรับและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น คาดว่า จะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรภายใต้เครื่องหมาย Q เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้พื้นที่ผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและปลอดภัยขยายตัวกว้าง ทั้งยังทำให้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า Q เพิ่มขึ้น เป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารและทำให้ยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยด้านอาหารหรือฟู้ดเซฟตี้ (Food Safety) ของประเทศมีความเข้มแข็งและขับเคลื่อนไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๑๗ ผู้ถือหุ้น AGE ไฟเขียวปันผล 0.20 บาท ฉลุย
๑๓:๒๙ ไทยเวียตเจ็ทเสนอ โปรส่งท้าย เที่ยวคลายร้อน ตั๋วเริ่มต้น 100 บาท
๑๓:๔๗ TERA เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 122.86 %
๑๓:๔๑ LINE TODAY ปักธง 'LIVE TODAY' ออนไลน์ไลฟ์แห่งชาติ เดินหน้าดันพันธมิตรโต ตอกย้ำกลยุทธ์สร้างอิมแพคให้ธุรกิจคอนเทนต์
๑๓:๒๐ Coach เปิดตัว The Coach Tabby Shop ลาน PARC PARAGON ต่อยอดกระเป๋ารุ่น Tabby Bag สู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมาย
๑๓:๔๒ YLG ชี้ทองคำผันผวนระยะสั้นรับแรงขายทำกำไร หลังคลายกังวลเหตุปะทะตะวันออกกลาง ระยะสั้นแนะขาย ระยะยาวหาจังหวะเก็บรับเทรนด์ระยะยาว 2-3
๑๓:๒๒ สสวท. จับมือ องค์การค้าของ สกสค. อบรมครู สควค. สร้างพลังครูวิทย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๑๓:๐๐ บัตรเครดิต ttb ชวนมาอิ่มคุ้ม กิน 1,000.- ลด 100.- ในแคมเปญ Tasty Asian กับ 9 ร้านดังสไตล์เอเชียน
๑๓:๒๐ ปุ้มปุ้ย เปิดตัว ปลาราดพริก สูตรน้ำตาลน้อย ลุยตลาดคนรักสุขภาพ ชูทางเลือกใหม่ ได้คุณภาพ และความสะดวก ตอกย้ำที่หนึ่งผู้นำอาหารกระป๋องปรุงรส
๑๓:๔๑ ไอคอนสยาม จับมือมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดแสดงผลงานนักศึกษา Prismatic ความหลากหลายทางความคิดสู่ผลงานศิลปะที่สะท้อนตัวตน ณ ICON ART CULTURE