ปภ. บูรณาการทุกภาคส่วนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย – เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก

จันทร์ ๐๓ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๐๑:๕๗
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและ บรรเทาปัญหาอุทกภัยจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหาอุทกภัย พร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำและรับฟังปัญหา จากประชาชน จะได้อำนวยการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการบริหารจัดการน้ำ ให้เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำควบคู่กับการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดู แล้ง รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชน เขตเศรษฐกิจ เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังไปยังแหล่งน้ำสาธารณะในพื้นที่ ตลอดจนระดมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย สนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทันท่วงที

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศเกิดฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมในลักษณะน้ำไหลหลาก ประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำ และจากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ระยะครึ่งแรกของเดือนตุลาคม 2559 จะเกิดฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ห่วงใยประชาชนที่ ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยจังหวัด เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการบัญชาการและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำและรับฟังปัญหาจากประชาชน เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ สำหรับการบริหารจัดการน้ำ ให้ประสานหน่วยงานชลประทานและอุตุนิยมวิทยาในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะการเปิดปิดประตูระบายน้ำบริเวณเขื่อนชัยนาทและเขื่อนเจ้าพระยาให้ สอดคล้องกับอัตราความเร็วในการไหลของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจากภาคเหนือและ ปริมาณน้ำจากฝนที่ตกในพื้นที่แล้วไหลมาสมทบ (Side flow) รวมกันในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งควบคู่กันไปด้วย โดยใช้เครื่องสูบน้ำ ระหัดวิดน้ำ ทำลำรางดึงน้ำที่ท่วมขังไปกักเก็บไว้ในบ่อ บึง อ่างน้ำ หรือแหล่งน้ำสาธารณะในพื้นที่ก่อนเป็นลำดับแรก พร้อมจัดทำเหมือง ฝายกั้นน้ำ เขื่อนยาง ฝายยาง สระน้ำเทียม เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้ได้อย่างน้อย 1 จุดต่อ 1 ตำบล สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ให้ใช้เทคโนโลยี ระบบข้อมูล หรือโปรแกรมการคำนวณในการประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสารณภัยได้เร่งระดมนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชน เขตเศรษฐกิจ และพื้นที่สำคัญของจังหวัด เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังไปยังแหล่งน้ำสาธารณะในพื้นที่ รวมถึงระดมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย รถยกสูง รถสูบส่งน้ำระยะไกล เรือท้องแบน เต๊นท์ยกพื้น ถุงยังชีพ และรถไฟส่องสว่าง จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี และเขต 16 ชัยนาท สนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท นครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และปทุมธานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมาก ขึ้น เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ