ดูไบเริ่มก่อสร้าง “The Tower” ตึกระฟ้าแห่งใหม่ เตรียมเป็นเจ้าของสถิติตึกสูงที่สุดในโลกในปี 2563

อังคาร ๑๑ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๗:๕๓
ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มักตูม รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนายกรัฐมนตรีและเจ้าผู้ครองนครดูไบ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคาร "The Tower at Dubai Creek Harbour" ซึ่งจะเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกเมื่อแล้วเสร็จในปี 2563

(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161011/427130 )

(รูปภาพ: http://photos.prnewswire.com/prnh/20161011/427131 )

ทั้งนี้ ฯพณฯ โมฮัมหมัด อัล เกอร์กาวี ประธาน Dubai Holding, โมฮัมเหม็ด อัลอับบาร์ ประธาน Emaar Properties และผู้มีเกียรติท่านอื่น ๆ ได้เข้าร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์ดังกล่าวด้วย

The Tower จะส่งเสริมชื่อเสียงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในด้านการรังสรรค์นวัตกรรมทางสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง โดยตึกระฟ้าแห่งใหม่ที่เตรียมขึ้นครองบัลลังก์ตึกที่สุดในโลกแทนเจ้าของสถิติในปัจจุบันอย่าง Burj Khalifa นั้น โดดเด่นด้วยวิว 360 องศาสุดตระการตา ซึ่งสามารถมองเห็นเมืองทั้งเมือง รวมถึงมุมมองที่ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา

The Tower กำหนดนิยามใหม่ของเส้นขอบฟ้าอันน่าประทับใจ และเตรียมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางระดับโลกแห่งใหม่ โดยตึกระฟ้าแห่งใหม่นี้กินพื้นที่ 6 ตารางกิโลเมตรใน Dubai Creek Harbour โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับมาสเตอร์แพลนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางอัจฉริยะแห่งยุคหน้า ซึ่งขับเคลื่อนด้วยการพัฒนาล่าสุดในด้านปัญญาประดิษฐ์

Dubai Creek Harbour ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่าง Emaar และ Dubai Holding ตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติดูไบและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติ Ras Al Khor ที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์ของยูเนสโก โดยได้ ซานติเอโก คาลาทราวา วอลลส์ สถาปนิกลูกครึ่งสเปนสวิส เป็นผู้ออกแบบ

โมฮัมหมัด อัล เกอร์กาวี กล่าวว่า "การสร้างตึกระฟ้าแห่งใหม่นี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพราะเราวางแผนให้อาคารดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของประเทศ นอกจากนี้ The Tower ยังเป็นการเฉลิมฉลองวิสัยทัศน์ของ ท่านชีค โมฮัมเหม็ด ที่เน้นย้ำด้วยการประกาศ "UAE Strategy for the Future" กลยุทธ์เพื่ออนาคตในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านการเปลี่ยนผ่านของประเทศ

โมฮัมเหม็ด อัลอับบาร์ กล่าวว่า "ดูไบเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมการสร้างตึกระฟ้า รวมถึงการพัฒนาสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมสุดล้ำ และ The Tower จะขึ้นแท่นเป็นสิ่งปลูกสร้างอันยอดเยี่ยมของเมืองอัจฉริยะ ตามดำริของท่านชีค โมฮัมเหม็ด ซึ่งเราจะเดินหน้าผลักดันการก่อสร้างอาคารแห่งนี้ให้แล้วเสร็จทันงานมหกรรม Expo 2020"

ทั้งนี้ Emaar เลือกใช้เทคโนโลยีการสร้างตึกระฟ้ารูปแบบใหม่ซึ่งไม่เหมือนกับอาคารใดในโลก โดยได้มีการทดสอบการต้านทานแรงลมและแรงแผ่นดินไหวของโครงสร้างตึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ตัวอาคารยังได้รับการออกแบบตามมาตราฐานสากลระดับสูงสุด ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุ ไปจนถึงเทคโนโลยีการก่อสร้าง

สำหรับสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเพชรยอดมงกุฎของตึกแห่งนี้คือจุดชมวิว Pinnacle Room ซึ่งตั้งอยู่บนจุดสูงสุด อีกทั้งยังมีสวน VIP Obeservation Garden Decks โดยตัวตึกจะมีไฟส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาเพื่อเสริมให้ตึกระฟ้าแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คที่สวยงามน่าทึ่งตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

ที่มา: Emaar Properties

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4