มกอช. เจรจาโคเด็กซ์ แก้ไขมาตรฐานสับปะรดกระป๋องสำเร็จ คาดเอื้อประโยชน์ไทยเพิ่มสัดส่วนการส่งออกสับปะรดเพิ่มขึ้น ตอกย้ำครองแชมป์อันดับ 1 ประเทศผู้ส่งออกในตลาดโลก

จันทร์ ๑๗ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๒๖
นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการโคเด๊กซ์ สาขาผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ ครั้งที่ 28 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.สหรัฐอเมริกา ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มกอช. พร้อมด้วยอุปนายกและประธานกลุ่มผู้ผลิตสับปะรด สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปเข้าร่วมประชุมเพื่อแก้ไขมาตรฐานสับปะรดกระป๋องที่มีการประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2524 ให้สอดคล้องกับรูปแบบการค้าในปัจจุบัน ซึ่งได้ขยายขอบข่ายให้ครอบคลุมถึงสับปะรดที่ไม่เจาะแกน และสับปะรดที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวหรือถุงเพาซ์ด้วย โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ประเทศไทยเป็นประธานคณะทำงานแก้ไขมาตรฐานดังกล่าว ซึ่งผลสำเร็จจากการประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยได้นำเสนอผลการแก้ไขมาตรฐานสับปะรดกระป๋องให้คณะกรรมการพิจารณา จนได้รับการยอมรับให้เสนอคณะกรรมาธิการโคเด๊กซ์ เพื่อประกาศรับรองให้เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศโดยเร็วต่อไป

สำหรับมาตรฐานสับปะรดกระป๋องฉบับใหม่มีการแก้ไขในประเด็นสำคัญๆ 5 เรื่อง ดังนี้ 1. ปรับเกณฑ์ความสม่ำเสมอของสับปะรดแบบลูกเต๋า ให้ยอมรับขนาดที่เล็กกว่า 8 มิลลิเมตร หรือน้ำหนักน้อยกว่า 3 กรัม โดยไม่ถือว่าเป็นสับปะรดที่ไม่ได้ขนาด หรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันตลาดมีความต้องการสับปะรดลูกเต๋าขนาดเล็กเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมไอศกรีมและขนมอบ 2. ปรับข้อกำหนดของตำหนิที่เกิดจากการจิกตาสับปะรดให้ชัดเจนมากขึ้น จากเดิมที่ไม่มีการกำหนดขนาดรอยจิกตาไว้ โดยกำหนดใหม่เป็นรอยจิกตาที่มีขนาดมากกว่า 2 มิลลิเมตร จึงจะถือว่าเป็นตำหนิ 3. ปรับแก้ไขน้ำหนักบรรจุขั้นต่ำของเนื้อสับปะรดให้สอดคล้องกับแนวการปฏิบัติทางการค้า โดยกำหนดให้มีน้ำหนักเนื้อสับปะรดในช่วง 58-78% ขึ้นกับรูปแบบผลิตภัณฑ์และชนิดการบรรจุ 4. อนุญาตให้ใช้สารป้องกันการเกิดการออกซิเดชั่นในสับปะรดที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวหรือถุงเพาซ์ 5. เพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์สับปะรดชนิดไม่เจาะแกน เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่มีใยอาหารมากขึ้น ขณะเดียวกัน มาตรฐานฉบับนี้จะไม่บังคับใช้กับผลิตภัณฑ์ที่เติมสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล เช่น ซูคราโลส เป็นต้น

ดังนั้น ความสำเร็จในการเจรจาแก้ไขมาตรฐานสับปะรดกระป๋องในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคของอุตสาหกรรมการผลิตสับปะรดกระป๋องของไทย และส่งผลให้ไทยสามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกสับปะรดสับปะรดกระป๋องไปยังตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเฉพาะการคงเป็นอันดับ 1 ในการส่งออกสับปะรดกระป๋องไปยังตลาดโลก และครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 50 % ซึ่งเฉลี่ยในแต่ละปีไทยสามารถส่งออกได้ประมาณ 35,000 – 40,000 ล้านบาท โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ แคนนาดา เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ