โดย มร.อเล็กซอง ดูปอง ประธานหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย เผยถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า "ทางหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย ได้จัดงาน บงชูร์ เฟรนช์ แฟร์ มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ซึ่งปีนี้ได้จัดโซนพิเศษ "วีฟ ลา เมดิแตราเน่" เป็นการรวบรวมสินค้าดีคุณภาพพรีเมี่ยมจากประเทศฝรั่งเศสและประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อื่นๆ อาทิ อิตาลี กรีก สเปน โปรตุเกส รวมกว่า 100 บูธ อาทิ ชีส ไวน์ ตับห่าน แฮม ชา และอาหารปรุงสดสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนขนานแท้ รวมถึง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอางค์ ฯลฯ ซึ่งผู้ที่มาร่วมงานยังได้ร่วมลุ้น รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ: กรุงเทพ-ปารีส จากสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เมื่อช็อปครบทุกๆ 2,000 บาท อย่างไรก็ตามนอกจากจะเป็นงานแฟร์ที่ให้ชาวไทยได้มีโอกาสเลือกสรรสินค้าดีในราคาพิเศษในช่วงสิ้นปีแล้ว ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ให้เหล่านักลงทุน หรือ ผู้สนใจอยากเป็นเจ้าของกิจการได้มาค้นหาไอเดียใหม่ๆอีกด้วย"
เริ่มต้นงานแถลงข่าวด้วยการเปิดโลกแห่งอาหารเมดิเตอร์เรเนียน กับ "ไอเบริโค" (Iberico) สุดยอดแฮมขาหมูดำอันเป็นตำนานของประเทศสเปน จากแบรนด์ CINCO JOTAS และเครื่องปรุงคลาสสิก "น้ำมันมะกอก" จากแบรนด์ La Espanola ที่มีความเก่าแก่กว่า 170 ปี ซึ่งเชฟหนุ่ม "เจมสส์ ณ ถลาง" ตัวแทนบริษัท เคซีจี จำกัด ผู้นำเข้า ได้โชว์ลีลาการปรุงเมนูเด็ดสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน "ทาปาส" กล่าวว่า "แฮมไอเบริโค ถูกขนานนามให้เป็นแฮมที่แพงที่สุดในโลก (เริ่มต้นกิโลกรัมละ 18,000 บาท) เพราะใช้กระบวนการผลิตนานถึง 5 ปี จากหมูดำซึ่งเป็นหมูสายพันธุ์พิเศษ ถูกเลี้ยงด้วยผลต้นสนบนพื้นที่เปิดขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่แฮมไอเบริโคจะนิยมรับประทานคู่กับขนมปัง รวมถึงผลไม้อย่างเมลอนและองุ่นเพื่อชูรสชาติแฮมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น หรืออาจปรุงด้วยน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น เนื่องจากมีคุณภาพดีและรสชาติดีเยี่ยมที่สุด มีความเป็นกรดต่ำกว่า 1% เหมาะในการนำมาประกอบอาหารชนิดที่ไม่ต้องผ่านความร้อน"
จากนั้นต่อด้วยไฮไลท์ที่สอง โลกของชีส กับ ชีสบานง (Banon Cheese) อันเลื่องชื่อของประเทศฝรั่งเศส โดย มร. โรดอล์ฟ ปาซิฟิโก ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชีส จาก บริษัท เมก้า ซีเล็คชั่น จำกัด เผยว่า "ชีสบานงเป็นชีสเฉพาะทางตอนใต้ของฝรั่งเศส และหาทานยาก เนื่องจากผลิตจากนมแพะคุณภาพสูงที่อาศัยอยู่บนภูเขาในเมืองอาร์แดช และ เมืองโดรม ในแคว้นโรนาลป์ ซึ่งมีอากาศค่อนข้างอบอุ่น จึงทำให้ชีสจะออกรสเปรี้ยวนิดๆ และเวลาทานจะมีกลิ่นหอมอ่อนของใบเกาลัด ซึ่งใช้ห่อหุ้มเพื่อเก็บชีสได้นานอีกทั้งเพิ่มความหอมและรสชาติที่ดี" และอีกหนึ่งความพิเศษที่คนรักชีสควรลอง คือ "ชีสวิแว็ง" เฟต้าชีสที่ผลิตจากนมแพะของเมืองไทย โดย มร. นิโคลาส์ วิแว็ง จาก แบรนด์วิแว็ง เปิดเผยว่า ใช้นมแพะคุณภาพดีจากจังหวัดเชียงใหม่มาผลิตชีสด้วยเทคนิคแบบฝรั่งเศสดั้งเดิมรสชาติหอมมัน เนื้อสัมผัสค่อนข้างแห้ง เมื่อเปรียบเทียบกับเฟต้าชีสนมวัว นิยมนำมาผสมกับ โยเกริต์ทานเป็นดิปป์คู่ขนมปัง หรือโรยหน้าพาสต้า ส่วนชาวฝรั่งเศสนิยมทานคู่กับ โซซิสซง (saucisson) หรือ ไส้กรอกฝรั่งเศส
ต่อด้วยการก้าวสู่ดินแดนแห่งชา สัมผัสมนต์เสน่ห์ของการดื่ม "ชา" จากฝีมือ อรจิรา ศรีไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญการชงชา จากบริษัท พินนาเคิล แก๊สโตร (Pinnacle Gastro) ผู้นำเข้า แบรนด์ชาระดับพรีเมี่ยม โรเนอเฟลท์ (Ronnefeldt) ที่มาสาธิตการชงชาร้อนและเย็น ให้ท่านได้ดื่มด่ำความคลาสสิก จากชา 3 ประเภท ได้แก่ ชาดอกลาเวนเดอร์ (Lavender Harmony) จากเมืองโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ชาดาร์จีลิ่ง เอิร์ลเกรย์ (Darjeeling Earl Grey TGFOP Autumn) และ ชารอยบอสวานิลลาครีม กลิ่นส้ม (Rooibos Cream Orange) จากประเทศอิตาลี โดยคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิมจากกระบวนการผลิตชาด้วยมือ และสนุกสนานในรสชาติที่หอมสดชื่น
ต่อด้วยอีกหนึ่งไฮไลท์เครื่องดื่ม ที่ขอเอาใจคอไวน์ จาก "ไวน์ คอนเน็คชั่น" โดย อาลิเซ่ เรย์มงด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ ได้เปิดเผยว่า ไวน์จากเมดิเตอร์เรเนียนถือเป็นต้นกำเนิดแห่งไวน์กว่าหลายพันปี จากองุ่นมากกว่า 3,000 สายพันธุ์ กลมกล่อมด้วยรสชาติเบา สดชื่นจากผลไม้และดอกไม้ ที่เข้ากันได้ดีกับอาหารมื้อเบา ไปจนถึงรสชาติเข้มข้น หวานอมเปรี้ยว และมีความฝาดค่อนข้างสูง เข้าได้ดีกับเนื้อย่าง ผักย่าง และอาหารไทย
ในขณะที่เซเลบริตี้-คนดัง นนทกานต์ ทัพพะรังสี กรรมการผู้จัดการบริษัท เบอร์เจอร์ โพรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่พลาดนำ "ลอมป์ เบอร์ชเย่ ปารีส" ตะเกียงน้ำหอมปรับอากาศต้นตำรับจากฝรั่งเศส มีประวัติยาวนานกว่า 117 ปี มาร่วมสร้างสีสันในงาน ซึ่งเป็นตะเกียงน้ำหอมแบบไร้ควันที่ชาวฝรั่งเศสนิยมใช้สำหรับดับกลิ่นอาหาร และกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากใช้น้ำหอมที่สารสกัดจากธรรมชาติ และยังนำไปประดับตกแต่งบ้านเพิ่มความสวยงามสไตล์ปารีเชียงในทุกมุมห้อง
ปิดท้ายด้วยสินค้าไฮไลท์อันเป็นตำนานของฝรั่งเศส กับแบรนด์ "โมบูแซง" (Mauboussin) เครื่องประดับสไตล์ฝรั่งเศสที่มีประวัติยาวนานเกือบ 200 ปี โดย อัครเรศ พิมพ์แก่น จาก บริษัท โมบูแซง (แห่งประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "แต่เดิมทาง แบรนด์เริ่มจากการผลิตจิวเวลรี่ให้กับชนชั้นสูง ราชวงศ์ในยุโรป รัสเซีย ส่วนทางเอเชียคือสุลต่านบรูไน และมีชื่อเสียงโด่งดังจากเหล่าคนดังในฮอลลีวู๊ดเลือกใส่ออกงาน จนปัจจุบันได้สร้างสรรค์ให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มด้วยนิยาม อาร์ตติสจิวเวลเลอร์ กับเอกลักษณ์จิวเวอรี่เซต ที่ไม่ซ้ำแบบใครผสมผสานเทคนิคการออกแบบเข้ากับวัฒนธรรมในแต่ละยุคสมัย รวมถึงการเลือกใช้ อัญมณีและวัสดุให้เหมาะและเข้ากันกับอารมณ์ที่หลากหลายของผู้สวมใส่ สำหรับเทคนิคในการเลือกแหวนเพื่อคุณผู้หญิง ควรคำนึงถึงความหมายที่จะสื่อถึงคนรัก อย่างเช่น แหวนเม็ดเดี่ยว สื่อถึงความรักเดียว ใจเดียว แหวนเพชรรอบนิ้ว สื่อถึง ความรักที่นิรันดร และแหวน แบบเพชรสามเม็ดเรียง สื่อถึงรักที่ยั่งยืน นอกจากนี้เทรนด์ของแหวนแต่งงานในปี 2560 จะเน้นแหวนที่ประดับด้วยพลอยสีๆ มีความเรียบโก้ ที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน"
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาช็อปสินค้าคุณภาพพรีเมี่ยมได้ที่ งาน บงชูร์ เฟรนช์ แฟร์ 2016 "วีฟ ลา เมดิแตราเน่ "ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2559 เวลา 10:00 - 20:00 น. ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย โทร. 02-650-9613-4 หรือwww.facebook.com/BonjourFrenchFair